0 0
Read Time:4 Minute, 43 Second

16 ส.ค. นี้ เตรียมพบกับคอนเสิร์ตครั้งประวัติศาสตร์ของไทย ฉลองครบรอบ 5 ทศวรรษ บนเส้นทางนักเปียโนของ “ณัฐ ยนตรรักษ์” นักเปียโนและนักประพันธ์ชั้นครู ผู้เป็นตำนานของประเทศไทย ใน “50 Years Nat Yontararak The Pianist”

กรุงเทพฯ, ศาลาสุทธสิริโสภา — สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย ร่วมกับ บริษัท ไทยเบเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ภูมิใจเสนอ คอนเสิร์ตครั้งประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ฉลองครบรอบ 5 ทศวรรษบนเส้นทางนักเปียโนของ ณัฐ ยนตรรักษ์ นักเปียโนและนักประพันธ์ชั้นครูผู้เป็นตำนานของประเทศไทย ในคอนเสิร์ต “50 Years Nat Yontararak The Pianist” การแสดงที่รวบรวมบทเพลงทรงคุณค่าตลอดชีวิตของ ณัฐ ยนตรรักษ์ โดยการแสดงครั้งนี้จะจัดขึ้นที่หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ในวันที่ 16 สิงหาคม 2567 เวลา 19.00 น. สำรองที่นั่งล่วงหน้าได้ที่เว็บไซด์ www.thaiticketmajor.com หรือ ทางไลน์ แอด: @SalaSudasiriSobha

โดยการจัดคอนเสิร์ต “50 Years Nat Yontararak The Pianist” ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดโอกาสให้แฟนเพลงที่ชื่นชอบในฝีมือและผลงานของ ณัฐ ยนตรรักษ์ ได้มีโอกาสชมการแสดงสดแบบเต็มรูปแบบครั้งแรกในเมืองไทย นำเสนอบทเพลงชิ้นเอกที่พิสูจน์ความสำเร็จมาแล้วจากการแสดงทั่วยุโรปให้คนไทยได้มีโอกาสชม และเพื่อกระตุ้นวงการดนตรีคลาสสิกร่วมสมัยของไทยให้เป็นที่สนใจในสังคมวงกว้าง ผ่านผลงานเพลงของ ณัฐ ยนตรรักษ์ และที่สำคัญเหนืออื่นใดงานแสดงครั้งนี้จะเป็นการหารายได้สมทบกองทุนส่งเสริมศิลปะร่วมสมัยในการสนับสนุนศิลปินไทยทุกแขนง ไม่ว่าจะเป็น สาขาทัศนศิลป์, ศิลปะการแสดง, ดนตรี, วรรณศิลป์, สถาปัตยกรรม, มัณฑนศิลป์, เรขศิลป์, ภาพยนตร์ และ สาขาออกแบบเครื่องแต่งกาย เพื่อเปิดโอกาสให้ศิลปินรุ่นหลังได้รับการสนับสนุนทางด้านทุนทรัพย์จากกองทุนฯ ในการสร้างสรรค์ผลงานอย่างกว้างขวางมากขึ้น

ณัฐ ยนตรรักษ์ เล่าถึงรายละเอียดของการแสดงคอนเสิร์ตในครั้งนี้ว่า “เป็นคอนเสิร์ตที่เลือกกลับมาแสดงที่หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ที่ๆ เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางศิลปินของผม โดยการแสดงครั้งนี้เกิดขึ้นเพื่อฉลองครบ 50 ปีของการเป็นนักเปียโน นับตั้งแต่วันที่ผมแสดงบนเวทีสาธารณะครั้งแรก แต่งเพลงแรก ทัวร์แสดงครั้งแรกและดำรงชีวิตในฐานะศิลปิน นักเปียโน นักแต่งเพลง และครู มาจนถึงวันนี้ การเดินทาง 50 ปีนี้เต็มไปด้วยความทรงจำและประสบการณ์อันมีค่า ตลอดระยะเวลา 50 ปีในการทำงาน ผมขอบคุณพระเจ้าที่ผมได้รับโอกาสดีๆ จากคนรอบตัวมากมายที่ช่วยนำพาชีวิตของผมมาถึงจุดนี้ และวันนี้ผมขอส่งต่อโอกาสที่ได้รับให้คนอื่นต่อไป ด้วยการมอบรายได้จากการขายบัตรคอนเสิร์ตครั้งนี้ให้แก่ กองทุนส่งเสริมศิลปะร่วมสมัย เพื่อสนับสนุนศิลปินรุ่นใหม่ที่ยังต้องการโอกาสในการสร้างสรรค์ผลงานดีๆ ให้กับประเทศ นี่คือสิ่งที่ผมอยากเริ่มต้นเป็นแบบอย่างและร่วมเป็นขวัญกำลังใจให้กับน้องๆ ศิลปินในการเดินทางในสายอาชีพนี้ต่อไปอย่างยั่งยืน”

โดยการแสดงจะเริ่มต้นด้วยเพลง “ไก่แก้ว” (1987) เพลงไทยเพลงแรกที่เรียบเรียงสำหรับเดี่ยวเปียโน นำทำนองมาจากเพลงไทยเดิม เพลงนี้เคยแสดงในงานเปิดศูนย์วัฒนธรรมฯ ครั้งแรกเมื่อปี 1987 ต่อด้วยเพลง “เพ้อจันทร์” (1979) เพลงที่ทำให้ ณัฐ ยนตรรักษ์ เป็นที่รู้จักในวงกว้างจากอัลบั้มที่นักสะสมตัวจริงต้องมี ต่อด้วยเพลง “คิดถึงเธอ” (1979) ซึ่งเป็นเพลงแรกที่ อ.ณัฐ แต่งทั้งเนื้อร้องและทำนองเอง โดยมีศิลปินรับเชิญ แนต-บัณฑิตา The Voice Thailand ศิลปินที่ผสมผสานความเป็นไทยและสากลได้อย่างลงตัว การันตีด้วยผลงานกับศิลปินแจ๊สแนวหน้าของประเทศไทยมากมาย ตามด้วยเพลง “เพื่อนแท้” (1986) ที่มีศิลปินรับเชิญ ตุลย์ ตุลานันท์ นักร้องนำวง FIVERA ผู้มากความสามารถในการผสมผสานการร้องเพลงโอเปราเข้ากับเพลงป๊อปได้อย่างลงตัวร่วมแสดง

และอีกหนึ่งไฮไลท์ของการแสดงนี้คือ บทเพลง “ถวายชัยคีตมหาราชา” เปียโนโซนาต้าบทแรกในประวัติศาสตร์ดนตรีคลาสสิกของประเทศไทย เป็นบทเพลงที่รวบรวมทำนองเพลงในรัชกาลต่างๆ ของราชวงศ์จักรี ร้อยเรียงเป็นอันหนึ่งอันเดียว อาทิ เพลง “ยูงทอง” และ “มหาจุฬาลงกรณ์” ประสบความสำเร็จมาแล้วกว่า 100 คอนเสิร์ตทั่วโลก รวมถึงการเป็นตัวแทนจากประเทศไทยไปแสดงที่องค์การสหประชาชาติ นครนิวยอร์ก ในโอกาสฉลองปีกาญจนาภิเษกครบรอบครองราชย์ 50 ปีในรัชกาลที่ 9 ต่อด้วยบทเพลงจาก “สยามโซนาต้า” เป็นอีกหนึ่งบทประพันธ์ทำนองไทยในรูปแบบคลาสสิกที่พาผู้ฟังไปสัมผัสเสน่ห์ของดนตรีจากภาคอีสาน ที่แสดงถึงเทคนิคที่เป็นหนึ่งเดียวของโลกโดยศิลปินไทยในการเลียนเสียงแคนด้วยเปียโน กับทำนองโห่สามลา ที่สนุกและคุ้นหูสำหรับคนไทยทุกคน ปิดท้ายด้วยไฮไลท์ใหญ่กับบทเพลงนวัตกรรมใหม่ “ลิเกโซนาต้า บุตรน้อยหลงหาย” ผลงานที่นำทำนองลิเกผสมผสานกับเปียโนแสดงคู่กับกลองตะโพนและเครื่องเคาะหลากชนิด โดยนำแรงบันดาลใจจากเนื้อเรื่องในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลว่าด้วยเรื่องราวของการให้อภัยในครอบครัว โดยมี วูกัช คูเชดโว มือกลองชาวโปแลนด์มากความสามารถผู้เชี่ยวชาญในการผสมผสานดนตรีตะวันตกกับดนตรีตะวันออกที่หาตัวจับยากมาร่วมสร้างอรรถรสในบทเพลงอย่างมหัศจรรย์ พร้อมด้วยโชว์นาฏลีลาประกอบการแสดง โดยทีมนักแสดงจาก สถาบันคริสเตียนนิเทศน์สัมพันธ์ สภาคริสตจักรในประเทศไทย เป็นอีกบทเพลงที่ได้พิสูจน์ความสำเร็จมาแล้วทั่วยุโรป และยังเป็นการแสดงหนึ่งเดียวที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามในงานเชียงรายเบียนนาเล่เมื่อปลายธ.ค. 2023 ที่ผ่านมา.. สิ่งพิเศษอีกอย่างของงานครั้งนี้ คือจะเป็นการบรรเลงเพลงต่างๆ ด้วยเปียโนรุ่น CFX ตัวใหม่ของยามาฮ่าเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งเปียโนรุ่นนี้ เป็นเปียโนที่ยามาฮ่าทุ่มเทพัฒนาในทุกรายละเอียด เพื่อให้ได้ประสบการณ์ทางดนตรีที่ดีที่สุดเท่าที่ยามาฮ่าเคยมีมา

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในงานเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่ครั้งนี้ และ ร่วมสัมผัสความงดงามของบทเพลงที่สร้างแรงบันดาลใจมาตลอด 50 ปีของณัฐ ยนตรรักษ์ ในคอนเสิร์ต “50 Years Nat Yontararak The Pianist” ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ในวันที่ 16 สิงหาคม 2567 เวลา 19.00 น. บัตรราคา 3,000 / 2,500 / 1,800 และ 1,000 บาท สำรองที่นั่งล่วงหน้าได้ที่เว็ปไซด์ www.thaiticketmajor.com หรือ ทางไลน์ @SalaSudasiriSobha

#NatYontararak #Nat50YearsLegacy #Nat50YearsConcertbyThaiBev

 

—————————-

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %

By admin

Average Rating

5 Star
0%
4 Star
0%
3 Star
0%
2 Star
0%
1 Star
0%

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

You missed

“กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค หรือ KJL” ลุยเปิดศักราชใหม่ด้วยไลน์ผลิตภัณฑ์ระบบไฟฟ้ารุ่นล่าสุด “Pull Box ชุบกัลวาไนซ์” ทั้งแบบเหล็กหนา 1.6 และ 1.2 มม. รับมือทุกหน้างานจากอาคารพาณิชย์ถึงโรงงานใหญ่ พร้อมตอบโจทย์ช่างมืออาชีพในยุคที่คุณภาพต้องมาก่อน รองรับตลาดระบบไฟฟ้าเติบโตต่อเนื่อง ตั้งเป้าเจาะกลุ่มลูกค้าโครงการอาคารพาณิชย์ โรงงานอุตสาหกรรม และโครงการระดับเมกะโปรเจกต์ทั่วประเทศ นายเกษมสันต์ สุจิวโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค จำกัด (มหาชน) หรือ KJL ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยว่า ในช่วงไรมาสแรก ปี 2568 บริษัทฯ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ “Pull Box ชุบกัลวาไนซ์” 2 รุ่นใหม่ล่าสุด ประกอบด้วย Pull Box ชุบกัลวาไนซ์ – เหล็กหนา 1.6 มม. เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแข็งแรง ทนทานเป็นพิเศษ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม หรือพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมรุนแรง กล่องผลิตจากเหล็กคุณภาพสูง เคลือบกันสนิมแบบกัลป์วาไนซ์ทั้งภายในและภายนอก Pull Box ชุบกัลวาไนซ์ – เหล็กหนา 1.2 มม. รุ่นมาตรฐานที่เน้นความคล่องตัว ติดตั้งง่าย น้ำหนักเบากว่า แต่ยังคงความแข็งแรง เหมาะสำหรับงานติดตั้งทั่วไปในโครงการ อาคารพาณิชย์ และระบบภายในอาคารทั้ง 2 รุ่นผ่านการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอน เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้า KJL ทุกชิ้นสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างแท้จริง “ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้เป็นอีกก้าวสำคัญของ KJL ในการสร้างทางเลือกให้แก่ผู้ใช้งานระบบไฟฟ้าในทุกระดับ เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนา Pull Box ให้มีความแข็งแรง ปลอดภัย กันสนิม และติดตั้งง่าย เพื่อตอบรับความต้องการของโครงการที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ทั้งในด้านคุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ทั้งสองรุ่นดังกล่าวได้ผ่านการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และกระบวนการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้า KJL ทุกชิ้นสามารถรองรับการใช้งานจริงในทุกสภาพแวดล้อม และพร้อมวางจำหน่ายวันนี้ทั่วประเทศ” นายเกษมสันต์ กล่าว