0 0
Read Time:5 Minute, 4 Second

ดีป้า จับมือ COM7 BUSINESS ประกาศความร่วมมือด้านการขับเคลื่อนบัญชีบริการดิจิทัล

​วันที่ 9 สิงหาคม 2567, กรุงเทพมหานคร – ดีป้า และ COM7 BUSINESS ประกาศความร่วมมือด้านการขับเคลื่อนบัญชีบริการดิจิทัลและอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทย อำนวยความสะดวกผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไปที่มองหาเทคโนโลยีดิจิทัลที่มีมาตรฐาน ในราคาที่สมเหตุสมผลได้โดยเหมาะสมกับบริบทของตนเอง ผู้ประกอบการดิจิทัลสามารถขยายตลาดภาคเอกชน และเข้าสู่ตลาดภาครัฐได้ง่ายขึ้น พร้อมปูพรมนำเสนอรายชื่อของผู้ประกอบการดิจิทัลที่ขึ้นทะเบียนบัญชีบริการดิจิทัลและรายละเอียดต่าง ๆ บนหน้าจอของร้าน BaNANA ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำให้ประชาชนที่สนใจได้เลือกสรร

ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า และ
นายภาคภูมิ เสตะรัต ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการสายงานปฏิบัติการสาขา บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 BUSINESS ประกาศความร่วมมือด้านการขับเคลื่อนบัญชีบริการดิจิทัลและอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทย โดยมี นางสาวพรเพ็ญ แก้วสุระพล Education & Enterprise Director และ นายสิทธิวัจน์ เวชยาพันธุ์ Head of Cloud & Enterprise Solution COM7 BUSINESS พร้อมด้วย นายฉัตรชัย คุณปิติลักษณ์ รองผู้อำนวยการใหญ่ และ ดร.ชินาวุธ ชินะประยูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า ร่วมเป็นสักขีพยาน

​ผศ.ดร.ณัฐพล เปิดเผยว่า บัญชีบริการดิจิทัล คือหนึ่งในกลไกยกระดับเศรษฐกิจดิจิทัลไทยที่มีการรวบรวมสินค้าและบริการดิจิทัลจากดิจิทัลสตาร์ทอัพและผู้ให้บริการดิจิทัลสัญชาติไทย เป็นตัวช่วยในการคัดกรองผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัลที่มีคุณสมบัติครบถ้วนและเป็นไปตามข้อกำหนดตามมาตรฐาน dSURE (ดีชัวร์) หรือ Digital Sure ที่ ดีป้า กำหนดขึ้นสำหรับซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน อาทิ มาตรฐานด้านความปลอดภัยในการใช้งาน และมาตรฐานด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ มั่นใจข้อมูลถูกจัดเก็บในประเทศ ไม่รั่วไหล อีกทั้งมีการระบุราคาที่ชัดเจน เชื่อถือได้ และเป็นไปตามข้อกำหนดของกรมบัญชีกลาง

นอกจากนี้ บัญชีบริการดิจิทัลยังอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการ รวมถึงประชาชนทั่วไปที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการดิจิทัล อีกทั้งสามารถนำค่าใช้จ่ายมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 200% ขณะเดียวกันหน่วยงานภาครัฐ
ที่ต้องการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาการให้บริการประชาชน สามารถจัดซื้อจัดจ้างผลิตภัณฑ์และบริการที่ขึ้นทะเบียนบัญชีบริการดิจิทัลโดยเลือกใช้วิธีเฉพาะเจาะจงโดยไม่จำกัดวงเงิน ซึ่งเงื่อนไขเป็นไปตามกฎกระทรวงกำหนดพัสดุและวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2566 กระทรวงการคลัง

“สำหรับความร่วมมือระหว่าง ดีป้า และ COM7 BUSINESS ในครั้งนี้จะช่วยให้ประชาชนที่กำลังมองหาโซลูชันสามารถเข้าถึงและเลือกใช้ผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัลที่มีมาตรฐาน ในราคาที่สมเหตุสมผลได้โดยเหมาะสมกับบริบท
ของตนเอง ขณะเดียวกันจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการดิจิทัลที่สามารถขยายตลาดภาคเอกชน และเข้าสู่ตลาดภาครัฐได้ง่ายขึ้น โดยปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัลที่ขึ้นทะเบียนบัญชีบริการดิจิทัลแล้วมากกว่า 400 รายการสินค้าและบริการ” ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าว
ผศ.ดร.ณัฐพล กล่าวเสริมว่า นอกเหนือจากบัญชีบริการดิจิทัลแล้ว ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าวยังมุ่งส่งเสริมอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเกม ซึ่ง ดีป้า และ COM7 BUSINESS เล็งเห็นว่า การขยายตัวของอุตสาหกรรมเกมจะเป็นแรงผลักดันให้ตลาดคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อัจฉริยะ (Smart Devices) เติบโตตาม ดังนั้น ดีป้า และ COM7 BUSINESS จะเดินหน้าขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเกมควบคู่ไปกับตลาดคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อัจฉริยะ อีกทั้งร่วมสร้างความตระหนักรู้แก่ประชาชนอีกทางหนึ่ง

​ด้าน นายภาคภูมิ กล่าวว่า ความร่วมมือกับ ดีป้า ในครั้งนี้จะช่วยสร้างการรับรู้เกี่ยวกับบัญชีบริการดิจิทัล และดึงดูดให้ประชาชนทั่วไป รวมถึงผู้ประกอบการที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัลสามารถเข้าถึงบัญชีบริการดิจิทัลได้โดยง่ายผ่านการนำเสนอรายชื่อของผู้ประกอบการดิจิทัลที่ขึ้นทะเบียนในบัญชีบริการดิจิทัล รวมถึงรายละเอียดของเทคโนโลยีต่าง ๆ บนหน้าจอของร้าน BaNANA ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมดิจิทัลไทยที่ใช้บริการคลาวด์ของนิติบุคคลที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องในประเทศ เช่น Amazon Web Services ให้ได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุด

​ทั้งนี้ ดีป้า ยังมีโครงการดี ๆ อย่าง โครงการ CONNEXION ที่มุ่งยกระดับองค์ความรู้ พัฒนาชุดทักษะใหม่
ด้านดิจิทัลให้กับคนไทย โดยเฉพาะผู้ว่างงานและนักศึกษาจบใหม่ที่กำลังหางานให้มีความพร้อมต่อการประกอบอาชีพใหม่ในยุคดิจิทัล และมีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซไทยอย่าง คอนเทนต์ครีเอเตอร์และอินฟลูเอนเซอร์ หรือจะประกอบอาชีพอื่น ๆ ในสายอย่าง ออแกไนเซอร์ นักออกแบบ นักพากย์ นักเล่าเรื่อง เป็นต้น

และอีกหนึ่งโครงการกับ เปิดเมือง เปิดท่องเที่ยวไทยด้วยดิจิทัล กับการพัฒนา ThailandCONNEX เพื่อเป็นแพลตฟอร์มกลางที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางรูปแบบ Business to Business (B2B) ในลักษณะ Wholesales สำหรับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้สามารถเข้าถึง นำเสนอสินค้าและบริการสู่ผู้ให้บริการท่องเที่ยว (Online Travel Agents : OTAs) ทั้งในประเทศและต่างประเทศทั่วโลก อีกทั้งช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันและ
เพิ่มโอกาสการเข้าถึงนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้กับผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรม ลดการพึ่งพาแพลตฟอร์มต่างชาติ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ซึ่งที่ผ่านมาโครงการดังกล่าวประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย โดยมีผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว อาทิ กลุ่มธุรกิจที่พัก ร้านอาหาร และธุรกิจบริการเช่า ยานพาหนะเข้าร่วมแพลตฟอร์ม ThailandCONNEX กว่า 1 แสนราย มีสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวกว่า 2 แสนรายการ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 12,000 ล้านบาท

———————————————————————

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %

By admin

Average Rating

5 Star
0%
4 Star
0%
3 Star
0%
2 Star
0%
1 Star
0%

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

You missed

“กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค หรือ KJL” ลุยเปิดศักราชใหม่ด้วยไลน์ผลิตภัณฑ์ระบบไฟฟ้ารุ่นล่าสุด “Pull Box ชุบกัลวาไนซ์” ทั้งแบบเหล็กหนา 1.6 และ 1.2 มม. รับมือทุกหน้างานจากอาคารพาณิชย์ถึงโรงงานใหญ่ พร้อมตอบโจทย์ช่างมืออาชีพในยุคที่คุณภาพต้องมาก่อน รองรับตลาดระบบไฟฟ้าเติบโตต่อเนื่อง ตั้งเป้าเจาะกลุ่มลูกค้าโครงการอาคารพาณิชย์ โรงงานอุตสาหกรรม และโครงการระดับเมกะโปรเจกต์ทั่วประเทศ นายเกษมสันต์ สุจิวโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค จำกัด (มหาชน) หรือ KJL ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยว่า ในช่วงไรมาสแรก ปี 2568 บริษัทฯ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ “Pull Box ชุบกัลวาไนซ์” 2 รุ่นใหม่ล่าสุด ประกอบด้วย Pull Box ชุบกัลวาไนซ์ – เหล็กหนา 1.6 มม. เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแข็งแรง ทนทานเป็นพิเศษ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม หรือพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมรุนแรง กล่องผลิตจากเหล็กคุณภาพสูง เคลือบกันสนิมแบบกัลป์วาไนซ์ทั้งภายในและภายนอก Pull Box ชุบกัลวาไนซ์ – เหล็กหนา 1.2 มม. รุ่นมาตรฐานที่เน้นความคล่องตัว ติดตั้งง่าย น้ำหนักเบากว่า แต่ยังคงความแข็งแรง เหมาะสำหรับงานติดตั้งทั่วไปในโครงการ อาคารพาณิชย์ และระบบภายในอาคารทั้ง 2 รุ่นผ่านการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอน เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้า KJL ทุกชิ้นสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างแท้จริง “ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้เป็นอีกก้าวสำคัญของ KJL ในการสร้างทางเลือกให้แก่ผู้ใช้งานระบบไฟฟ้าในทุกระดับ เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนา Pull Box ให้มีความแข็งแรง ปลอดภัย กันสนิม และติดตั้งง่าย เพื่อตอบรับความต้องการของโครงการที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ทั้งในด้านคุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ทั้งสองรุ่นดังกล่าวได้ผ่านการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และกระบวนการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้า KJL ทุกชิ้นสามารถรองรับการใช้งานจริงในทุกสภาพแวดล้อม และพร้อมวางจำหน่ายวันนี้ทั่วประเทศ” นายเกษมสันต์ กล่าว