0 0
Read Time:3 Minute, 43 Second

SNPS เตรียมเสนอขายหุ้นไอพีโอ 105 ล้านหุ้น ลุยระดมทุนเสริมแกร่ง เข้าเป็นน้องใหม่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)

“สเปเชี่ยลตี้ เนเชอรัล โปรดักส์” เดินหน้าเตรียมความพร้อมเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)  จ่อเสนอขายหุ้นไอพีโอ 105 ล้านหุ้น พร้อมเดินหน้าระดมทุน เล็งเข้าเทรดภายในปีนี้

ดร.ธีรญา กฤษฎาพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สเปเชี่ยลตี้ เนเชอรัล โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SNPS เปิดเผยว่า SNPS ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสมุนไพรตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำที่ให้บริการอย่างครบวงจร (One Stop Solution Provider) ครอบคลุมตั้งแต่การผลิตและจำหน่ายสารสกัดสมุนไพรมาตรฐาน และการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ความงาม และสุขอนามัย ทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและเวชสำอาง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และผลิตภัณฑ์สมุนไพร ซึ่งมีทั้งการรับจ้างพัฒนาและผลิตผลิตภัณฑ์ให้แก่ลูกค้า  (Original Design Manufacturer :ODM)  และการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้ตราสินค้าของกลุ่มบริษัทฯ (Original Brand Manufacturer :OBM) จากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านสมุนไพรมานานกว่า 25 ปี ทำให้มีฐานข้อมูลสารสกัดสมุนไพรมาตรฐานจำนวนมากและสามารถนำเอาองค์ความรู้ที่มี รวมถึงการใช้เทคโนโลยี และนวัตกรรมต่างๆ มาต่อยอดเพื่อพัฒนาทั้งสารสกัดสมุนไพรมาตรฐานและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ความงาม และสุขอนามัย ที่มีความเป็นเอกลักษณ์และแตกต่าง สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ และตอบโจทย์ตามการเปลี่ยนแปลงของตลาดและกระแสความนิยมของผู้บริโภค พร้อมกันนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญด้านคุณภาพและมาตรฐานของกระบวนการผลิต  โดยได้รับการรับรองมาตรฐานคุณภาพระดับสากลมากมาย เช่น ISO22716:2007, FSSC22000, GMP, HACCP, GHPs, GMP PIC/S เป็นต้น

“แผนการระดมทุนและการเข้าจดทะเบียนเป็นบริษัทจดทะเบียนใน SET นับเป็นก้าวสำคัญในการรุกขยายธุรกิจ เพื่อเพิ่มศักยภาพและโอกาสเติบโตในอนาคตอย่างต่อเนื่อง และยังช่วยสนับสนุนสมุนไพรไทยสู่มาตรฐานสากล เพื่อดูแลสุขภาพของมนุษย์และโลกอย่างยั่งยืน เพื่อตอกย้ำวิสัยทัศน์ และมุ่งสู่ความเป็นผู้นำในการส่งมอบสมุนไพรไทยสู่ตลาดโลก”

ขณะที่ รศ.ดร.พรรณวิภา กฤษฎาพงษ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สเปเชี่ยลตี้
เนเชอรัล โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SNPS กล่าวเสริมว่า จากการอยู่ในแวดวงสมุนไพรมาอย่างยาวนานและด้วยความตั้งใจที่จะยกระดับมาตรฐานของสมุนไพรไทยให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก จึงเป็นที่มาในการก่อตั้งบริษัท SNPS เพื่อเพิ่มมูลค่าของสมุนไพรในประเทศไทยผ่านการนำวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมต่างๆ มาประยุกต์ใช้ ซึ่งเราให้ความสำคัญตั้งแต่การพัฒนาระบบการเพาะปลูกผ่านโครงการแทนคุณไทยฟาร์มซึ่งเป็นโครงการสนับสนุนเครือข่ายเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่ต่างๆ กว่า 15 จังหวัด ตลอดจนการลงทุนกับเทคโนโลยีเครื่องจักรและพัฒนานวัตกรรมในการผลิตผ่านองค์ความรู้และการวิจัยและพัฒนา เพื่อส่งมอบสารสกัดสมุนไพรมาตรฐานรวมถึงผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ซึ่งการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

ด้าน นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บริษัท สเปเชี่ยลตี้ เนเชอรัล โปรดักส์ จำกัด (มหาชน)  หรือ SNPS กล่าวว่า SNPS เป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจด้านสมุนไพรที่ครบวงจรที่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน ทำให้มีองค์ความรู้ที่สามารถคิดค้นและพัฒนาสารสกัดสมนุไพรมารฐานและผลิตภัณฑ์ที่มีความแตกต่าง อีกทั้งยังมีการนำเอานวัตกรรมทั้งที่คิดค้นโดยทีมงานวิจัยและพัฒนาภายในของบริษัท และผลงานวิจัยที่ร่วมมือกับสถาบันชั้นนำต่างๆ มาพัฒนากระบวนการผลิตและผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง

“SNPS จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 105 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท คิดเป็นร้อยละ 25.93 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้ โดยคาดว่าบริษัทจะสามารถเสนอขายหุ้น IPO และเข้าจดทะเบียนเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) หมวดของใช้ส่วนตัวและเวชภัณฑ์ (PERSON) ภายในปีนี้”สำหรับผลการดำเนินงานในงวดหกเดือนแรกปี 2567 SNPS มีรายได้รวม 216.82 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.47 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า แบ่งเป็นรายได้จากการขายสารสกัดสมุนไพรมาตรฐานเติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 7.02 และรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ความงาม และสุขอนามัยเติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 5.33  โดย SNPS มีกำไรสุทธิสำหรับงวดหกเดือนแรกปี 2567 จำนวน 29.35 ล้านบาท

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %

By admin

Average Rating

5 Star
0%
4 Star
0%
3 Star
0%
2 Star
0%
1 Star
0%

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

You missed

“กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค หรือ KJL” ลุยเปิดศักราชใหม่ด้วยไลน์ผลิตภัณฑ์ระบบไฟฟ้ารุ่นล่าสุด “Pull Box ชุบกัลวาไนซ์” ทั้งแบบเหล็กหนา 1.6 และ 1.2 มม. รับมือทุกหน้างานจากอาคารพาณิชย์ถึงโรงงานใหญ่ พร้อมตอบโจทย์ช่างมืออาชีพในยุคที่คุณภาพต้องมาก่อน รองรับตลาดระบบไฟฟ้าเติบโตต่อเนื่อง ตั้งเป้าเจาะกลุ่มลูกค้าโครงการอาคารพาณิชย์ โรงงานอุตสาหกรรม และโครงการระดับเมกะโปรเจกต์ทั่วประเทศ นายเกษมสันต์ สุจิวโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค จำกัด (มหาชน) หรือ KJL ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยว่า ในช่วงไรมาสแรก ปี 2568 บริษัทฯ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ “Pull Box ชุบกัลวาไนซ์” 2 รุ่นใหม่ล่าสุด ประกอบด้วย Pull Box ชุบกัลวาไนซ์ – เหล็กหนา 1.6 มม. เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแข็งแรง ทนทานเป็นพิเศษ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม หรือพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมรุนแรง กล่องผลิตจากเหล็กคุณภาพสูง เคลือบกันสนิมแบบกัลป์วาไนซ์ทั้งภายในและภายนอก Pull Box ชุบกัลวาไนซ์ – เหล็กหนา 1.2 มม. รุ่นมาตรฐานที่เน้นความคล่องตัว ติดตั้งง่าย น้ำหนักเบากว่า แต่ยังคงความแข็งแรง เหมาะสำหรับงานติดตั้งทั่วไปในโครงการ อาคารพาณิชย์ และระบบภายในอาคารทั้ง 2 รุ่นผ่านการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอน เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้า KJL ทุกชิ้นสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างแท้จริง “ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้เป็นอีกก้าวสำคัญของ KJL ในการสร้างทางเลือกให้แก่ผู้ใช้งานระบบไฟฟ้าในทุกระดับ เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนา Pull Box ให้มีความแข็งแรง ปลอดภัย กันสนิม และติดตั้งง่าย เพื่อตอบรับความต้องการของโครงการที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ทั้งในด้านคุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ทั้งสองรุ่นดังกล่าวได้ผ่านการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และกระบวนการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้า KJL ทุกชิ้นสามารถรองรับการใช้งานจริงในทุกสภาพแวดล้อม และพร้อมวางจำหน่ายวันนี้ทั่วประเทศ” นายเกษมสันต์ กล่าว