0 0
Read Time:2 Minute, 30 Second

สีเจบีพี ฉลองครบรอบ 50 ปี ประกาศวิสัยทัศน์ ปักธงพัฒนาธุรกิจสู่ความยั่งยืน 

พร้อมขยายแบรนด์รับช่วงต่อสี ซี.ไอ.ซี

บริษัท เจ.บี.พี. อินเตอร์เนชั่นแนล เพ็นท์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมสีชั้นนำของประเทศไทย นำโดยนายจงกล รัชนกูล ประธานกรรมการบริหาร  จัดงาน JBP Sustainable Innovation Journey Together” เพื่อประกาศวิสัยทัศน์และทิศทางในการดำเนินธุรกิจสู่อนาคตที่ยั่งยืน พร้อมฉลองครบรอบ 50 ปีของเจบีพี และประกาศความพร้อมรับช่วงต่อแบรนด์ CIC ซึ่งเจบีพีฯ จะเข้าดูแลบริหารจัดการต่อจาก บริษัท เครโดอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 เป็นต้นไป

นายจงกล รัชนกูล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เจ.บี.พี อินเตอร์เนชั่นแนล เพ็นท์ จำกัด  ได้บอกเล่าเรื่องราวถึงการเดินทางอันยาวนานนับครึ่งศตวรรษของเจบีพี  และขอบคุณพันธมิตรที่ร่วมเดินทางสู่อนาคตที่ยั่งยืนไปกับเจบีพี พร้อมประกาศถึงการเตรียมความพร้อมสำหรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต

อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของงานคือ พิธีส่งมอบสิทธิ์ในการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ ซี.ไอ.ซี. โดย บริษัท เครโดอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ให้แก่ เจบีพี ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการขยายธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป โดยนายสุชาติ เตียนโพธิทอง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เครโดอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวสนับสนุนเจบีพีในการดูแลแบรนด์และลูกค้าของ CIC โดยมั่นใจว่าการเปลี่ยนผ่านครั้งนี้จะเป็นไปอย่างราบรื่น และเชื่อมั่นว่าเจบีพีจะสามารถดูแลลูกค้าของแบรนด์ CIC พร้อมขยายแบรนด์ให้เติบโตไปบนเส้นทางที่ยั่งยืนพร้อมกับเจบีพี ได้อย่างมั่นคง

ด้าน นางสาวสรพรรณ รัชนกูล รองกรรมการผู้จัดการสายงานเวลบีอิ้ง บริษัท เจ.บี.พี อินเตอร์เนชั่นแนล เพ็นท์ จำกัด ได้แสดงถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาแบรนด์ CIC หลังจากการรับช่วงในการดูแลต่อจากบริษัท เครโดฯ โดยเน้นการรักษามาตรฐานคุณภาพของผลิตภัณฑ์และการให้บริการ พร้อมนำพา CIC เติบโตไปพร้อมกับเจบีพี และสร้างอนาคตที่ยั่งยืนร่วมกันต่อไปในอนาคต

นายศราวุฒิ รัชนกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ.บี.พี. อินเตอร์เนชั่นแนล เพ็นท์ จำกัด ได้กล่าวสรุปถึงวิสัยทัศน์และทิศทางการเติบโตของเจบีพีในอนาคต โดยเน้นย้ำว่าความสำเร็จที่ผ่านมาเป็นเพียงจุดเริ่มต้นในการก้าวไปสู่อนาคตที่ยั่งยืนมากยิ่งขึ้น เจบีพีจะเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตอบโจทย์การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และรับผิดชอบต่อสังคม พร้อมขยายความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเข้าใกล้เป้าหมาย Net Zero ไปอีกขั้น

ทั้งนี้งาน “JBP Sustainable Innovation Journey Together” ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน ทั้งในด้านการขยายแบรนด์ การเติบโตทางธุรกิจ และการสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรอย่างแข็งแกร่ง เพื่อการเติบโตร่วมกันอย่างมั่นคงและยั่งยืน

#JBP #JBPPaintBetter #Sustainable #Innovation #NetZero

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %

By admin

Average Rating

5 Star
0%
4 Star
0%
3 Star
0%
2 Star
0%
1 Star
0%

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

You missed

“กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค หรือ KJL” ลุยเปิดศักราชใหม่ด้วยไลน์ผลิตภัณฑ์ระบบไฟฟ้ารุ่นล่าสุด “Pull Box ชุบกัลวาไนซ์” ทั้งแบบเหล็กหนา 1.6 และ 1.2 มม. รับมือทุกหน้างานจากอาคารพาณิชย์ถึงโรงงานใหญ่ พร้อมตอบโจทย์ช่างมืออาชีพในยุคที่คุณภาพต้องมาก่อน รองรับตลาดระบบไฟฟ้าเติบโตต่อเนื่อง ตั้งเป้าเจาะกลุ่มลูกค้าโครงการอาคารพาณิชย์ โรงงานอุตสาหกรรม และโครงการระดับเมกะโปรเจกต์ทั่วประเทศ นายเกษมสันต์ สุจิวโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค จำกัด (มหาชน) หรือ KJL ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยว่า ในช่วงไรมาสแรก ปี 2568 บริษัทฯ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ “Pull Box ชุบกัลวาไนซ์” 2 รุ่นใหม่ล่าสุด ประกอบด้วย Pull Box ชุบกัลวาไนซ์ – เหล็กหนา 1.6 มม. เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแข็งแรง ทนทานเป็นพิเศษ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม หรือพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมรุนแรง กล่องผลิตจากเหล็กคุณภาพสูง เคลือบกันสนิมแบบกัลป์วาไนซ์ทั้งภายในและภายนอก Pull Box ชุบกัลวาไนซ์ – เหล็กหนา 1.2 มม. รุ่นมาตรฐานที่เน้นความคล่องตัว ติดตั้งง่าย น้ำหนักเบากว่า แต่ยังคงความแข็งแรง เหมาะสำหรับงานติดตั้งทั่วไปในโครงการ อาคารพาณิชย์ และระบบภายในอาคารทั้ง 2 รุ่นผ่านการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอน เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้า KJL ทุกชิ้นสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างแท้จริง “ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้เป็นอีกก้าวสำคัญของ KJL ในการสร้างทางเลือกให้แก่ผู้ใช้งานระบบไฟฟ้าในทุกระดับ เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนา Pull Box ให้มีความแข็งแรง ปลอดภัย กันสนิม และติดตั้งง่าย เพื่อตอบรับความต้องการของโครงการที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ทั้งในด้านคุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ทั้งสองรุ่นดังกล่าวได้ผ่านการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และกระบวนการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้า KJL ทุกชิ้นสามารถรองรับการใช้งานจริงในทุกสภาพแวดล้อม และพร้อมวางจำหน่ายวันนี้ทั่วประเทศ” นายเกษมสันต์ กล่าว