0 0
Read Time:4 Minute, 29 Second

ศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์” คว้า Best CEO พร้อมนำ TISCO รับ 4 รางวัลเกียรติคุณจาก SET Awards 2024

 

30 ตุลาคม 2567 – นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ กลุ่มทิสโก้ ขึ้นรับรางวัลเกียรติคุณ Best CEO Award ในฐานะผู้บริหารสูงสุดยอดเยี่ยม ในงานประกาศผลและมอบรางวัล SET Awards ประจำปี 2567 จัดโดย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับวารสารการเงินธนาคาร พร้อมนำองค์กรเข้ารับอีก 3 รางวัลทรงเกียรติ ได้แก่ รางวัลบริษัทที่มีผลการดำเนินงานยอดเยี่ยม (Best Company Performance Awards) และ รางวัลนักลงทุนสัมพันธ์ดีเด่น (Outstanding Investor Relations Awards) ในกลุ่มบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดระหว่าง 30,000 – 100,000 ล้านบาท ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ได้รับ รางวัลบริษัทหลักทรัพย์ดีเด่น (Outstanding Securities Company Awards) สะท้อนได้ถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการดำเนินธุรกิจ โดยให้ความสำคัญกับการเติบโตอย่างมีคุณภาพ ตามเป้าหมายหลักในการขับเคลื่อนองค์กรด้วยความมั่นคงและยั่งยืนของกลุ่มทิสโก้

 

นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในฐานะตัวแทนของกลุ่มทิสโก้ ผมรู้สึกเป็นเกียรติและภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้รับมอบรางวัลจากเวทีอันทรงเกียรติแห่งนี้ ขอขอบคุณผู้จัดงาน และคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากเวที SET Awards ทุกท่าน ทุกรางวัลถือเป็นความภาคภูมิใจและสะท้อนได้ถึงความสำเร็จในวิชาชีพ (Professionalism) ของชาวทิสโก้ทุกคน และขอขอบคุณประธานคณะกรรมการและคณะกรรมการบริษัททุกท่านที่กำหนดทิศทางธุรกิจและกำกับดูแลกิจการด้วยดีมาโดยตลอด เพราะตลอดหลายปีที่ผ่านมา ภาคธุรกิจต้องเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน แต่ด้วยหลักยึดที่มุ่งเน้นคุณภาพของการเติบโต จากกลไกสู่ความสำเร็จที่เราเรียกว่าหลัก 3P นั่นคือ “Passion” มีความมุ่งมั่น “Professional” มีความเชี่ยวชาญ และ “Planet” ตอบโจทย์ความเป็นไปของโลกในปัจจุบันและอนาคต ที่สำคัญการเติบโตนี้ต้องคู่ขนานไปกับคุณภาพความเป็นอยู่ที่ดีของสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ทั้งในด้านการจัดสรรเงินทุนตามแนวคิดการเงินสีเขียว การปล่อยสินเชื่ออย่างรับผิดชอบ การให้ความรู้ทางการเงิน ภายใต้การกำกับดูแลกิจการที่ดี ตามยุทธศาสตร์ Sustainable Focus ที่หล่อหลอมเป็นหนึ่งเดียวกับการทำธุรกิจ ทำให้ทิสโก้แข็งแกร่งดังเช่นทุกวันนี้ และกลุ่มทิสโก้ยังมุ่งมั่นที่จะเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป”

 

สำหรับงานประกาศผลรางวัล SET Awards จัดขึ้นเพื่อยกย่อง เชิดชู สร้างความภาคภูมิใจให้แก่บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และบุคลากรที่เกี่ยวข้องมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2567 กลุ่มทิสโก้ คว้ารางวัลมาได้ทั้งหมด 4 รางวัล ในหมวด Business Excellence ซึ่งแต่ละรางวัลมีรายละเอียดดังนี้

รางวัลผู้บริหารสูงสุดยอดเยี่ยม (Best CEO Awards) มอบให้แก่ นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ที่นำพาองค์กรสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน โดยมีเกณฑ์พิจารณาจากความเป็นผู้นำที่มีความสามารถรอบด้าน ยึดถือหลักธรรมาภิบาลในการขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง มีวิสัยทัศน์และความสามารถเชิงกลยุทธ์ที่พร้อมปรับตัวรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม ตลอดจนให้ความสำคัญกับผู้มีส่วนได้เสียในทุกมิติ ซึ่งสนับสนุนการสร้างความยั่งยืนอย่างมั่นคงให้กับกิจการได้เป็นอย่างดี

รางวัลบริษัทที่มีผลการดำเนินงานยอดเยี่ยม (Best Company Performance Awards) ด้วยความสามารถในการสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งในด้านผลประกอบการทางธุรกิจ การกำกับดูแลกิจการที่ดี การปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของหน่วยงานกำกับ อย่างต่อเนื่อง กลุ่มทิสโก้จึงได้รับการเสนอชื่อและได้รับรางวัลในกลุ่มบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ 30,000 – 100,000 ล้านบาทเป็นปีที่ 9 นับตั้งแต่ปี 2548, 2559 และยังคงได้รับรางวัลต่อเนื่อง 7 ปีซ้อน ตั้งแต่ปี 2561 ถึงปัจจุบัน

รางวัลนักลงทุนสัมพันธ์ดีเด่น (Outstanding Investor Relations Awards) จากความโดดเด่นในการดำเนินกิจกรรมนักลงทุนสัมพันธ์ที่ดี โดยให้ข้อมูลที่ถูกต้องเหมาะสม มีคุณภาพ ครบถ้วนและครอบคลุมในเชิงลึก ผ่านช่องทางที่หลากหลายและมีประสิทธิภาพ รวมถึงมีนโยบายที่เอื้อต่อประโยชน์ของผู้ถือหุ้นและนักลงทุน ทำให้ได้รับการเสนอชื่อเป็นปีที่ 4 จากการสำรวจความคิดเห็นของบริษัทจดทะเบียน นักวิเคราะห์ และนักลงทุนสถาบัน ตั้งแต่ปี 2556, 2564, 2566 และ 2567

รางวัลบริษัทหลักทรัพย์ดีเด่น (Outstanding Securities Company Awards) บริษัทหลักทรัพย์ทิสโก้ จำกัด ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการดำเนินงานที่โดดเด่นท่ามกลางความผันผวนของตลาดทุน ด้วยการให้บริการที่มีคุณภาพและผลงานการวิเคราะห์หลักทรัพย์ที่หลากหลายและรอบด้าน นำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณภาพ ทันต่อสถานการณ์และเชื่อถือได้ ส่งผลให้บริษัทสามารถขยายส่วนแบ่งการตลาดได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บล. ทิสโก้ ยังได้รับรางวัลประเภทดังกล่าวเป็นปีที่ 8 ตั้งแต่ปี 2547, 2554, 2555, 2557, 2558, 2559, 2566 และ 2567 ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นและความพึงพอใจของลูกค้า รวมถึงการปฏิบัติตามกฎหมายและหลักเกณฑ์อย่างเคร่งครัดของบริษัทและเจ้าหน้าที่
###

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %

By admin

Average Rating

5 Star
0%
4 Star
0%
3 Star
0%
2 Star
0%
1 Star
0%

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

You missed

“กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค หรือ KJL” ลุยเปิดศักราชใหม่ด้วยไลน์ผลิตภัณฑ์ระบบไฟฟ้ารุ่นล่าสุด “Pull Box ชุบกัลวาไนซ์” ทั้งแบบเหล็กหนา 1.6 และ 1.2 มม. รับมือทุกหน้างานจากอาคารพาณิชย์ถึงโรงงานใหญ่ พร้อมตอบโจทย์ช่างมืออาชีพในยุคที่คุณภาพต้องมาก่อน รองรับตลาดระบบไฟฟ้าเติบโตต่อเนื่อง ตั้งเป้าเจาะกลุ่มลูกค้าโครงการอาคารพาณิชย์ โรงงานอุตสาหกรรม และโครงการระดับเมกะโปรเจกต์ทั่วประเทศ นายเกษมสันต์ สุจิวโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค จำกัด (มหาชน) หรือ KJL ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยว่า ในช่วงไรมาสแรก ปี 2568 บริษัทฯ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ “Pull Box ชุบกัลวาไนซ์” 2 รุ่นใหม่ล่าสุด ประกอบด้วย Pull Box ชุบกัลวาไนซ์ – เหล็กหนา 1.6 มม. เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแข็งแรง ทนทานเป็นพิเศษ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม หรือพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมรุนแรง กล่องผลิตจากเหล็กคุณภาพสูง เคลือบกันสนิมแบบกัลป์วาไนซ์ทั้งภายในและภายนอก Pull Box ชุบกัลวาไนซ์ – เหล็กหนา 1.2 มม. รุ่นมาตรฐานที่เน้นความคล่องตัว ติดตั้งง่าย น้ำหนักเบากว่า แต่ยังคงความแข็งแรง เหมาะสำหรับงานติดตั้งทั่วไปในโครงการ อาคารพาณิชย์ และระบบภายในอาคารทั้ง 2 รุ่นผ่านการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอน เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้า KJL ทุกชิ้นสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างแท้จริง “ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้เป็นอีกก้าวสำคัญของ KJL ในการสร้างทางเลือกให้แก่ผู้ใช้งานระบบไฟฟ้าในทุกระดับ เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนา Pull Box ให้มีความแข็งแรง ปลอดภัย กันสนิม และติดตั้งง่าย เพื่อตอบรับความต้องการของโครงการที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ทั้งในด้านคุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ทั้งสองรุ่นดังกล่าวได้ผ่านการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และกระบวนการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้า KJL ทุกชิ้นสามารถรองรับการใช้งานจริงในทุกสภาพแวดล้อม และพร้อมวางจำหน่ายวันนี้ทั่วประเทศ” นายเกษมสันต์ กล่าว