0
0
แอคคอร์ และ เอนนิสมอร์ ลุยขยายเครือข่ายโรงแรมทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตลอดปี 2566
เผยกลยุทธ์การเติบโตในระดับภูมิภาค เตรียมสยายปีกเปิดตัวโรงแรม 28 แห่งทั่วภูมิภาค และอีกมากมายที่จะตามมา
Mondrian Singapore Duxton จะเปิดให้บริการในไตรมาสที่ 1 ปี 2566 ซึ่งจะเข้าร่วมเครือข่ายโรงแรมแบรนด์ Mondrian แปดแห่งทั่วโลก
กรุงเทพฯ ประเทศไทย – แอคคอร์ (Accor) เครือข่ายโรงแรมระดับนานาชาติรายใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ผนึก เอนนิสมอร์ (Ennismore) ผู้นำด้านกลุ่มโรงแรมไลฟ์สไตล์ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ลุยขยายเครือข่ายโรงแรม รุกตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตลอดปี 2566 ตั้งเป้าเปิดตัวโรงแรมและรีสอร์ตเกือบ 30 แห่ง ภายใต้ 10 แบรนด์โรงแรมที่น่าสนใจ ใน 9 ประเทศ ตอกย้ำกลยุทธ์ที่แข็งแกร่ง และการพัฒนาที่ก้าวหน้าระดับภูมิภาค
ประเทศไทยยังคงเป็นตลาดสำคัญสำหรับแอคคอร์ และในปี 2566 แอคคอร์จะเปิดโรงแรมและรีสอร์ตใหม่ที่สำคัญหลายแห่ง อาทิ TRIBE Bangkok Sukhumvit 39 แบรนด์จาก Ennismore (เปิดให้บริการในไตรมาสที่ 2) ซึ่งจะเป็นการเปิดตัวแบรนด์ TRIBE ครั้งแรกในประเทศ TRIBE คือ แบรนด์ที่โดดเด่น ขับเคลื่อนด้วยการดีไซน์และเน้นประสบการณ์ที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวสมัยใหม่ ในขณะที่ Novotel Living Bangkok Sukhumvit Legacy (ไตรมาสที่ 2) นำเสนอคอนเซปต์ที่พักที่เหมาะกับการเข้าพักระยะยาว ตั้งอยู่ใจกลางย่านสุขุมวิท ให้บริการห้องพักจำนวน 207 ห้อง นอกจากนี้ Mercure Bangkok Sukhumvit 60 (ไตรมาสที่ 4) จะเปิดตัวด้วยจำนวนห้องพักทั้งหมด 178 ห้อง โรงแรม ibis Styles Bangkok Twin Towers (ไตรมาสที่ 3) จำนวน 666 ห้อง จะกลายเป็นโรงแรมแบรนด์ ibis Styles ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
นอกเหนือจากในกรุงเทพ ฯ แล้ว Novotel Rayong Star Convention Centre (ไตรมาสที่ 1) จำนวน 234 ห้อง จะกลายเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับไมซ์ (MICE) และการพักผ่อนที่สำคัญแห่งใหม่บนชายฝั่งทะเลตะวันออกของประเทศไทย ในขณะที่ Mercure Rayong Lomtalay Villas & Resort จะเปิดตัวเต็มรูปแบบ พร้อมห้องพักเพิ่มอีก 133 ห้อง ห้องสวีทและวิลล่า ห้องอาหารและบาร์ 4 แห่ง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่กว้างขวางสำหรับการประชุมและงานอีเวนท์ Grand Mercure Resort Ao Nang Krabi (ไตรมาสที่ 4) มีกำหนดการเปิดตัวด้วยห้องพัก 200 ห้องภายในสิ้นปีนี้
Novotel Phnom Penh Boeng Keng Kong Pullman Orchard Singapore
อีกหนึ่งก้าวสำคัญในปี 2566 ของ “แอคคอร์” นั้น คือการเปิดตัวโรงแรมและรีสอร์ตในจุดหมายปลายทางที่กำลังมาแรงและน่าจับตามองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ Novotel Sihanoukville Holiday Resort (ไตรมาสที่ 2) รีสอร์ตระดับมิดเสกล (midscale) ขนาด 232 ห้อง ที่จะนำการบริการและความสะดวกสบายระดับมาตรฐานสากลมาสู่เมืองชายทะเลยอดนิยมของกัมพูชา ในขณะที่ Novotel Phnom Penh Boeng Keng Kong โรงแรมขนาด 253 ห้อง จะเปิดให้บริการใจกลางเมืองหลวงของกัมพูชาในไตรมาสที่ 2 เช่นกัน ส่วนในเวียดนาม Pullman Hai Phong (ไตรมาสที่ 2) โรงแรมจำนวน 373 ห้อง จะนำมาตรฐานการบริการระดับโลกสู่เมืองท่าที่รุ่งเรืองแห่งนี้
ในสิงคโปร์ โรงแรมที่จะกลายเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ 3 แห่ง พร้อมที่จะยกระดับภาคการบริการระดับ 5 ดาว ได้แก่ Pullman Orchard Singapore โรงแรมแบรนด์ Pullman แห่งแรกของสิงคโปร์ จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 นี้ บนถนนชอปปิ้งชื่อดังอย่าง Orchard ให้บริการห้องพัก 326 ห้อง ตามมาด้วย Pullman Singapore Hill Street (ไตรมาสที่ 2) จะเปิดให้บริการด้วยจำนวนห้องพัก 342 ห้องท่ามกลางวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอย่าง Fort Canning, Saint Andrew’s Cathedral และแม่น้ำสิงคโปร์ ส่วน Mondrian Singapore Duxton (ไตรมาสที่ 1) จะตั้งอยู่บนย่าน Duxton Hill ย่านสุดฮิปที่มีชีวิตชีวา โรงแรมเน้นการดีไซน์ที่ผสานเข้ากับวัฒนธรรมท้องถิ่น สามารถมองเห็นวิวเมืองสิงคโปร์ที่สวยงาม มีจำนวนห้องพักทั้งหมด 302 ห้อง และจะเป็นโรงแรมแบรนด์ Mondrian แห่งที่ 9 ของโลก
“แอคคอร์” จะเติบโตอย่างรวดเร็วในอินโดนีเซียภายในปีนี้ พร้อมเปิดตัวโรงแรมใหม่หลายแห่ง เช่น ibis New Yogyakarta International Airport (ไตรมาสที่ 1) จำนวน 224 ห้อง, Novotel New Yogyakarta Airport Kulon Progo (ไตรมาสที่ 3) ใน Yogyakarta จำนวน 189 ห้อง, Mercure Pangkalan Bun (ไตรมาสที่ 3) ใน Central Kalimantan ซึ่งเป็นโรงแรม 150 ห้อง, ibis Palembang Sanggar (ไตรมาสที่ 4) ใน South Sumatra จำนวน 158 ห้อง, Grand Mercure Lampung (ไตรมาสที่ 4) จำนวน 335 ห้อง และโรงแรมแบรนด์ Mövenpick จำนวน 2 แห่ง คือ Mövenpick Bintan Lagoon Resort จำนวน 413 ห้อง และ Mövenpick Jakarta Pecenongan จำนวน 253 ห้อง โดยรีสอร์ตทั้งสองแห่งจะเปิดประตูต้อนรับนักเดินทางในไตรมาสที่ 4 ปี 2566 นี้
ในมาเลเซีย จะเปิดตัวโรงแรมใหม่อย่าง ibis PJCC Petaling Jaya จำนวน 161 ห้อง และ Mercure Miri City Centre จำนวน 172 ห้อง ซึ่งทั้งสองโรงแรมมีกำหนดจะเปิดให้บริการภายในกลางปี 2566 ส่วนในประเทศญี่ปุ่น จะเปิดตัวโรงแรม Mercure Hotel Tokyo Haneda Airport จำนวน 363 ห้อง (ไตรมาสที่ 4) ใกล้กับสนามบินฮาเนดะ ศูนย์กลางการบินที่มีผู้เดินทางหนาแน่นมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
การ์ธ ซิมมอนส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แอคคอร์ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ กล่าวว่า “ปี 2566 เป็นปีแห่งการเริ่มต้นของการเดินทาง การท่องเที่ยว และโรงแรม หลังผ่านพ้นความท้าทายในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เรากำลังเดินทางเข้าสู่ยุคใหม่ที่ปราศจากข้อจำกัดในการเดินทาง และเต็มไปด้วยโอกาส โรงแรมและรีสอร์ตใหม่ ๆ ของเราที่กำลังจะเปิดตัวครอบคลุมทุกภาคส่วนของตลาดตั้งแต่ระดับราคาประหยัดไปจนถึงระดับลักซ์ชัวรี่ เพิ่มตัวเลือกโรงแรมและประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้นักเดินในจุดหมายปลายทางที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดของเอเชีย เรารอที่จะสร้างความพึงพอใจให้กับผู้เข้าพักด้วยประสบการณ์ใหม่ที่น่าตื่นเต้นในปี 2566 นี้รวมถึงในอนาคต”
ในปี 2565 ที่ผ่านมา แอคคอร์ และ เอนนิสมอร์ ได้เซ็นสัญญาเปิดตัวโรงแรมรวมกว่า 30 แห่ง ซึ่งคิดเป็นจำนวนห้องพัก 8,700 ห้อง ใน 8 ประเทศทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใต้ 15 แบรนด์ ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ ตั้งแต่ระดับราคาประหยัดไปจนถึงระดับลักซ์ชัวรี่
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ แอคคอร์ สามารถเยี่ยมชม group.accor.com
