0 0
Read Time:2 Minute, 44 Second

กรุงเทพฯ – อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยกำลังเข้าสู่ยุคใหม่ของความยั่งยืน! Quality Partner (QP) ผู้นำด้านที่ปรึกษามาตรฐานอุตสาหกรรมยานยนต์ ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับ Carbonwize ผู้นำระดับโลกด้านแพลตฟอร์มคำนวณค่าก๊าซเรือนกระจก (GHG) ผ่านการเซ็นสัญญา Exclusive Partnership ที่ให้ Quality Partner เป็นตัวแทนอย่างเป็นทางการในอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทย

ความร่วมมือนี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ช่วยให้ผู้ผลิตยานยนต์และชิ้นส่วนสามารถ จัดการ Carbon Footprint ได้รวดเร็วขึ้น แม่นยำขึ้น และพร้อมแข่งขันในตลาดโลก ผ่านแพลตฟอร์มที่ได้รับเลือกให้เป็น Climate Technology ยอดเยี่ยมแห่งปี 2024 ของภูมิภาคอินโดแปซิฟิค


Carbon Footprint: เงื่อนไขใหม่ของอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับโลก

คุณอภิชัย ทวีชาติ กรรมการผู้จัดการของ Quality Partner กล่าวว่า “วันนี้การจัดการ Carbon Footprint ไม่ใช่แค่ ‘ทางเลือก’ แต่เป็น ‘เงื่อนไข’ สำคัญสำหรับธุรกิจยานยนต์ที่ต้องการส่งออกไปยังตลาดโลก” โดยอุตสาหกรรมยานยนต์กำลังเผชิญกับกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นมาตรการ CBAM (Carbon Border Adjustment Mechanism) ของสหภาพยุโรป หรือข้อกำหนด ESG ของคู่ค้ารายใหญ่ รวมถึงกฎหมายและ พรบ. ของรัฐบาลที่กำลังจะถูกประกาศใช้ในอนาคตอันใกล้ การไม่สามารถบริหารจัดการ Carbon Footprint อย่างมีประสิทธิภาพอาจหมายถึงการสูญเสียโอกาสทางธุรกิจในอนาคต

การร่วมมือกับ Carbonwize ทำให้ผู้ประกอบการสามารถใช้แพลตฟอร์มที่ได้รับการยอมรับระดับโลก ซึ่งช่วยให้การ คำนวณ Carbon Footprint แม่นยำขึ้น ลดต้นทุน และลดระยะเวลาในการขอรับรองมาตรฐาน เช่น ISO 14064-1 และ CFO ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Carbonwize: เครื่องมือทรงพลังที่ช่วยให้ผู้ผลิตไทยก้าวสู่มาตรฐานสากล

คุณนัชชา เลิศหัตถศิลป์ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานบริหารของ Carbonwize กล่าวว่า “เรามุ่งมั่นที่จะทำให้การจัดการ Carbon Footprint เป็นเรื่องง่ายและแม่นยำที่สุดสำหรับทุกองค์กร” แพลตฟอร์ม Carbonwize ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ ผู้ผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนสามารถลดภาระงานเอกสาร เปลี่ยนสู่การขอรับรองแบบ Paperless และเพิ่มความโปร่งใสในการตรวจสอบ ทำให้สามารถปฏิบัติตามมาตรฐานสากลได้อย่างรวดเร็ว

ยิ่งไปกว่านั้น Carbonwize ได้รับการเลือกให้เป็นแพลตฟอร์มกลางในการคำนวณ Carbon Footprint ให้กับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ด้วยความสามารถในการประมวลผลที่แม่นยำ โปร่งใส และใช้งานง่าย แพลตฟอร์มนี้ช่วยให้องค์กรสามารถจัดการข้อมูลคาร์บอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมสนับสนุนการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืนและสอด คล้องกับมาตรฐานทั้งประเทศไทยและระดับสากล แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Carbonwize ในการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน
แพลตฟอร์มนี้มีคุณสมบัติเด่น เช่น:

• Audit Grade สามารถตรวจรับรองได้บนระบบโดยตรง ผู้ตรวจประเมินมีความคุ้นเคย
• Automated ลดขั้นตอนการทำงาน โดยเฉพาะขั้นตอนที่มีความวิชาการสูง
• Autopart Industry Version ออกแบบให้เหมาะสมกับอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์โดยเฉพาะโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทย: ปลดล็อกศักยภาพสู่ตลาดโลก

การจับมือระหว่าง Quality Partner และ Carbonwize จะช่วยให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยสามารถ แข่งขันในเวทีโลกได้อย่างมั่นใจ ผู้ผลิตที่ต้องการส่งออกไปยังสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น จะสามารถ บริหารจัดการ Carbon Footprint ได้ตามมาตรฐาน ESG และข้อกำหนดของคู่ค้ารายใหญ่

หากคุณเป็นผู้ประกอบการที่ต้องการเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคต อย่ารอช้า! ติดต่อ Quality Partner วันนี้เพื่อรับคำปรึกษาฟรีเกี่ยวกับการจัดการ Carbon Footprint สำหรับธุรกิจของคุณ ทั้งนี้ สามารถติดต่อได้ที่ โทรศัพท์ 0863429724 หรืออีเมล์ training@qualitypartner.org

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %

By admin

Average Rating

5 Star
0%
4 Star
0%
3 Star
0%
2 Star
0%
1 Star
0%

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

You missed

“กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค หรือ KJL” ลุยเปิดศักราชใหม่ด้วยไลน์ผลิตภัณฑ์ระบบไฟฟ้ารุ่นล่าสุด “Pull Box ชุบกัลวาไนซ์” ทั้งแบบเหล็กหนา 1.6 และ 1.2 มม. รับมือทุกหน้างานจากอาคารพาณิชย์ถึงโรงงานใหญ่ พร้อมตอบโจทย์ช่างมืออาชีพในยุคที่คุณภาพต้องมาก่อน รองรับตลาดระบบไฟฟ้าเติบโตต่อเนื่อง ตั้งเป้าเจาะกลุ่มลูกค้าโครงการอาคารพาณิชย์ โรงงานอุตสาหกรรม และโครงการระดับเมกะโปรเจกต์ทั่วประเทศ นายเกษมสันต์ สุจิวโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค จำกัด (มหาชน) หรือ KJL ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยว่า ในช่วงไรมาสแรก ปี 2568 บริษัทฯ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ “Pull Box ชุบกัลวาไนซ์” 2 รุ่นใหม่ล่าสุด ประกอบด้วย Pull Box ชุบกัลวาไนซ์ – เหล็กหนา 1.6 มม. เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแข็งแรง ทนทานเป็นพิเศษ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม หรือพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมรุนแรง กล่องผลิตจากเหล็กคุณภาพสูง เคลือบกันสนิมแบบกัลป์วาไนซ์ทั้งภายในและภายนอก Pull Box ชุบกัลวาไนซ์ – เหล็กหนา 1.2 มม. รุ่นมาตรฐานที่เน้นความคล่องตัว ติดตั้งง่าย น้ำหนักเบากว่า แต่ยังคงความแข็งแรง เหมาะสำหรับงานติดตั้งทั่วไปในโครงการ อาคารพาณิชย์ และระบบภายในอาคารทั้ง 2 รุ่นผ่านการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอน เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้า KJL ทุกชิ้นสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างแท้จริง “ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้เป็นอีกก้าวสำคัญของ KJL ในการสร้างทางเลือกให้แก่ผู้ใช้งานระบบไฟฟ้าในทุกระดับ เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนา Pull Box ให้มีความแข็งแรง ปลอดภัย กันสนิม และติดตั้งง่าย เพื่อตอบรับความต้องการของโครงการที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ทั้งในด้านคุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ทั้งสองรุ่นดังกล่าวได้ผ่านการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และกระบวนการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้า KJL ทุกชิ้นสามารถรองรับการใช้งานจริงในทุกสภาพแวดล้อม และพร้อมวางจำหน่ายวันนี้ทั่วประเทศ” นายเกษมสันต์ กล่าว