0 0
Read Time:2 Minute, 28 Second

โค้งสุดท้าย! ไต้หวัน ชวนผู้ประกอบการไทยร่วมส่งไอเดียในแคมเปญ “Go Green with Taiwan” ชิงเงินรางวัลกว่า 7 แสนบาท พร้อมบินดูงานที่ไต้หวันฟรี เปิดรับสมัครถึง 31 สิงหาคมนี้

ไต้หวันชวนผู้ประกอบการไทยและบริษัทชั้นนำทั่วโลกร่วมส่งไอเดียพัฒนาโซลูชันและนวัตกรรม นำเสนอโครงการด้านความยั่งยืน ในแคมเปญ “Go Green with Taiwan” มุ่งเน้นการส่งเสริมความร่วมมือทางเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมหรือเศรษฐกิจ เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ – 31 สิงหาคมนี้
สำหรับแคมเปญ “Go Green with Taiwan” เกิดขึ้นจากเป้าหมายของไต้หวันในการบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ภายในปี 2050 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 6 ภาคส่วนหลัก ได้แก่ พลังงานและการกักเก็บ การประหยัดพลังงาน การขนส่งคาร์บอนต่ำ วัสดุสีเขียว อุปกรณ์ด้านสิ่งแวดล้อม
และเศรษฐกิจหมุนเวียน ล้วนเป็นแกนหลักในอุตสาหกรรมสีเขียวของไต้หวัน ตัวอย่างเช่น ไต้หวันกำลังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นต่อความยั่งยืนโดยการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมที่มีมลพิษสูงแบบดั้งเดิมด้วยแนวทางปฏิบัติที่สร้างสรรค์ เช่น การใช้วัสดุเหลือทิ้งจากอุตสาหกรรมเพื่อผลิตซีเมนต์คาร์บอนต่ำ และการใช้ระบบ AI ขั้นสูงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเตาหลอมเหล็ก ซึ่งช่วยลดการปล่อยคาร์บอนและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน นอกจากนี้ ไต้หวันยังมีอัตราการรีไซเคิลชั้นนำของโลกที่ 56% ซึ่งเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของประเทศในการเปลี่ยนแปลงการจัดการขยะให้เป็นกระบวนการที่มีประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากรซึ่งส่งเสริมความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืน แนวทางนี้ยังสอดคล้องกับโมเดลเศรษฐกิจ Bio-Circular-Green (BCG) ของไทย ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการทำงานร่วมกันระหว่างสองประเทศ
ทั้งนี้การแข่งขันจะประเมินใน 4 ด้าน ได้แก่ ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ ความเป็นไปได้ นวัตกรรม และการเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์หรือโซลูชันจากไต้หวัน ผู้ที่ผ่านเข้าสู่การแข่งขันรอบสุดท้ายจำนวน 6 ทีม
ที่จะได้เดินทางมาร่วมแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศที่ไต้หวัน โดยสมาชิกในทีมสูงสุด 2 ท่าน จะได้รับตั๋วเครื่องบิน
ชั้นประหยัดไป-กลับไต้หวัน พร้อมที่พักฟรี และโอกาสดูงานเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืนของไต้หวัน และผู้ชนะ 3 อันดับสุดท้าย จะได้รับเงินรางวัลมูลค่า 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 700,000 บาท


แคมเปญ “Go Green with Taiwan” จัดขึ้นโดยกรมการค้าระหว่างประเทศ (TITA) ภายใต้กระทรวงเศรษฐกิจ (MOEA) และดำเนินการโดยสภาส่งเสริมการค้าและการส่งออกไต้หวัน (TAITRA) ไต้หวันจึงขอเชิญชวนผู้ที่สนใจหรือใครที่มีไอเดียพัฒนาโซลูชันที่ยั่งยืน พร้อมจับมือกับไต้หวันเพื่อสร้างอนาคตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและยั่งยืน สามารถส่งแผนและสมัครเข้าร่วมโครงการตั้งแต่วันนี้ – 31 สิงหาคมนี้ ดูรายละเอียดเกี่ยวกับการรับสมัครได้ที่เว็บไซต์ gogreen.taiwanexcellence.org หรือ gogreen.surveycake.biz/s/eLGWV และ เฟซบุ๊ก Taiwan Excellence TH

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %

By admin

Average Rating

5 Star
0%
4 Star
0%
3 Star
0%
2 Star
0%
1 Star
0%

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

You missed

“กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค หรือ KJL” ลุยเปิดศักราชใหม่ด้วยไลน์ผลิตภัณฑ์ระบบไฟฟ้ารุ่นล่าสุด “Pull Box ชุบกัลวาไนซ์” ทั้งแบบเหล็กหนา 1.6 และ 1.2 มม. รับมือทุกหน้างานจากอาคารพาณิชย์ถึงโรงงานใหญ่ พร้อมตอบโจทย์ช่างมืออาชีพในยุคที่คุณภาพต้องมาก่อน รองรับตลาดระบบไฟฟ้าเติบโตต่อเนื่อง ตั้งเป้าเจาะกลุ่มลูกค้าโครงการอาคารพาณิชย์ โรงงานอุตสาหกรรม และโครงการระดับเมกะโปรเจกต์ทั่วประเทศ นายเกษมสันต์ สุจิวโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค จำกัด (มหาชน) หรือ KJL ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยว่า ในช่วงไรมาสแรก ปี 2568 บริษัทฯ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ “Pull Box ชุบกัลวาไนซ์” 2 รุ่นใหม่ล่าสุด ประกอบด้วย Pull Box ชุบกัลวาไนซ์ – เหล็กหนา 1.6 มม. เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแข็งแรง ทนทานเป็นพิเศษ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม หรือพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมรุนแรง กล่องผลิตจากเหล็กคุณภาพสูง เคลือบกันสนิมแบบกัลป์วาไนซ์ทั้งภายในและภายนอก Pull Box ชุบกัลวาไนซ์ – เหล็กหนา 1.2 มม. รุ่นมาตรฐานที่เน้นความคล่องตัว ติดตั้งง่าย น้ำหนักเบากว่า แต่ยังคงความแข็งแรง เหมาะสำหรับงานติดตั้งทั่วไปในโครงการ อาคารพาณิชย์ และระบบภายในอาคารทั้ง 2 รุ่นผ่านการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอน เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้า KJL ทุกชิ้นสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างแท้จริง “ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้เป็นอีกก้าวสำคัญของ KJL ในการสร้างทางเลือกให้แก่ผู้ใช้งานระบบไฟฟ้าในทุกระดับ เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนา Pull Box ให้มีความแข็งแรง ปลอดภัย กันสนิม และติดตั้งง่าย เพื่อตอบรับความต้องการของโครงการที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ทั้งในด้านคุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ทั้งสองรุ่นดังกล่าวได้ผ่านการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และกระบวนการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้า KJL ทุกชิ้นสามารถรองรับการใช้งานจริงในทุกสภาพแวดล้อม และพร้อมวางจำหน่ายวันนี้ทั่วประเทศ” นายเกษมสันต์ กล่าว