0 0
Read Time:2 Minute, 34 Second

KISS ฟอร์มแรงโกยกำไร Q2/67 โต 23.3% ปันผล 0.10 บาท
รายได้จากกลุ่มสินค้าความงามโตแรงต่อเนื่อง 34.3% ออนไลน์โตสนั่น 182.5%

“โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล” ฟอร์มแรงต่อเนื่อง โกยกำไรสุทธิ Q2/67 ที่ 38.7 ลบ. โต 23.3% YOY หลังรายได้โตแรงในธุรกิจหลักกลุ่มสินค้าความงามโตแรงอย่างต่อเนื่อง รายได้จากช่องทางออนไลน์โตสนั่น 182.5% จ่ายปันผล 0.10 บาทต่อหุ้น ขึ้น Record date 29 ส.ค. 67

คุณวรวรรณ ไชยกำเนิด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ KISS เปิดเผยว่า ผลประกอบการในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2567 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 308.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70.3 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 29.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 238.5 ล้านบาท ในขณะที่มีกำไรสุทธิสำหรับไตรมาสที่ 2 ปี 2567 อยู่ที่ 38.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.3 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 23.3% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 27.4 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทจะจ่ายปันผลในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท โดยกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) ในวันที่ 29 สิงหาคม 2567 และจ่ายปันผลในวันที่ 13 กันยายน 2567

การเพิ่มขึ้นของรายได้มาจากการเติบโตของธุรกิจหลัก ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์ความงาม หรือ Beauty care เติบโตต่อเนื่อง 34.3% และเป็นการเติบโตจากทุกช่องทางจัดจำหน่าย โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ e-Commerce ที่เติบโตสูงถึง 182.5% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในส่วนของกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิว หรือ Skincare มีแบรนด์หลักอย่าง Rojukiss ที่เติบโตสูงถึง 62% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมาจากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้แก่ Treatment Masks, Sleeping Masks, Pre-serum Toner และ Serum Cleanser ส่วนผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายอยู่แล้วในปัจจุบันทั้งกลุ่มพรีเมี่ยมแมสภายใต้แนวคิด Clinical Grade และกลุ่มสินค้าเน้นความคุ้มค่า Affordable Base ยังคงเติบโตต่อเนื่องจากการทำการตลาดดิจิตอลและกิจกรรมส่งเสริมการขาย เฉพาะช่องทางออนไลน์ e-Commerce มีการเติบโตสูงมากถึง 182.5%จากการทำการตลาดโดยเน้นรีวิวสินค้าจาก KOL/KOC การขายผ่านทาง Live Streaming รวมทั้งช่องทางจำหน่ายทางพันธมิตรเครือข่ายออนไลน์ (Affiliate) สำหรับช่องทางออฟไลน์เติบโต 22.2% โดยมีช่องทางร้านค้าปลีกสมัยใหม่ หรือ Modern Trade เติบโตสูงถึง 27.7%

ในส่วนของกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นมีปัจจัยหลักมาจากยอดขายผลิตภัณฑ์ความงามที่เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญและจากการที่บริษัทสามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายการขายและการบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 12.5% จากเดิม 11.5% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยในไตรมาสที่ 3 และ 4 ของปี 2567บริษัทจะยังคงมุ่งมั่นบริหารจัดการค่าใช้จ่ายการขายและการบริหารให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาอัตราการทำกำไรของบริษัท

———————————————————–

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %

By admin

Average Rating

5 Star
0%
4 Star
0%
3 Star
0%
2 Star
0%
1 Star
0%

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

You missed

“กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค หรือ KJL” ลุยเปิดศักราชใหม่ด้วยไลน์ผลิตภัณฑ์ระบบไฟฟ้ารุ่นล่าสุด “Pull Box ชุบกัลวาไนซ์” ทั้งแบบเหล็กหนา 1.6 และ 1.2 มม. รับมือทุกหน้างานจากอาคารพาณิชย์ถึงโรงงานใหญ่ พร้อมตอบโจทย์ช่างมืออาชีพในยุคที่คุณภาพต้องมาก่อน รองรับตลาดระบบไฟฟ้าเติบโตต่อเนื่อง ตั้งเป้าเจาะกลุ่มลูกค้าโครงการอาคารพาณิชย์ โรงงานอุตสาหกรรม และโครงการระดับเมกะโปรเจกต์ทั่วประเทศ นายเกษมสันต์ สุจิวโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค จำกัด (มหาชน) หรือ KJL ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยว่า ในช่วงไรมาสแรก ปี 2568 บริษัทฯ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ “Pull Box ชุบกัลวาไนซ์” 2 รุ่นใหม่ล่าสุด ประกอบด้วย Pull Box ชุบกัลวาไนซ์ – เหล็กหนา 1.6 มม. เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแข็งแรง ทนทานเป็นพิเศษ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม หรือพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมรุนแรง กล่องผลิตจากเหล็กคุณภาพสูง เคลือบกันสนิมแบบกัลป์วาไนซ์ทั้งภายในและภายนอก Pull Box ชุบกัลวาไนซ์ – เหล็กหนา 1.2 มม. รุ่นมาตรฐานที่เน้นความคล่องตัว ติดตั้งง่าย น้ำหนักเบากว่า แต่ยังคงความแข็งแรง เหมาะสำหรับงานติดตั้งทั่วไปในโครงการ อาคารพาณิชย์ และระบบภายในอาคารทั้ง 2 รุ่นผ่านการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอน เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้า KJL ทุกชิ้นสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างแท้จริง “ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้เป็นอีกก้าวสำคัญของ KJL ในการสร้างทางเลือกให้แก่ผู้ใช้งานระบบไฟฟ้าในทุกระดับ เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนา Pull Box ให้มีความแข็งแรง ปลอดภัย กันสนิม และติดตั้งง่าย เพื่อตอบรับความต้องการของโครงการที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ทั้งในด้านคุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ทั้งสองรุ่นดังกล่าวได้ผ่านการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และกระบวนการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้า KJL ทุกชิ้นสามารถรองรับการใช้งานจริงในทุกสภาพแวดล้อม และพร้อมวางจำหน่ายวันนี้ทั่วประเทศ” นายเกษมสันต์ กล่าว