0 0
Read Time:2 Minute, 39 Second

NITMX เปิดตัว Hackathon ระดับชาติ เฟ้นหาสุดยอดนักพัฒนาในโครงการ

“Hack to the Max: Digital Infrastructure” Hack ข้ามขีดจำกัด สู่ระบบการเงินแห่งอนาคต

บริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ จำกัด หรือ NITMX ผู้พัฒนาและให้บริการระบบการชำระเงิน และการโอนเงินระหว่างธนาคารของประเทศไทย เชื่อมโยงระบบการชำระเงินกับต่างประเทศตามที่ได้รับมอบหมายให้เป็น Interbank Transaction Management and Exchange หรือ ITMX ของประเทศไทย เตรียมจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ “Hack to the Max: Digital Infrastructure” Hack ข้ามขีดจำกัด สู่ระบบการเงินแห่งอนาคต  ในวันที่ 27 สิงหาคม 2567 ณ NEXT TECH ชั้น 4 สยามพารากอน กรุงเทพฯ เฟ้นหาทีมนักพัฒนาและนักสร้างสรรค์ที่จะมาร่วมขับเคลื่อนอนาคตของโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินดิจิทัลของประเทศไทย ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง NITMX และพันธมิตรในวงการเทคโนโลยีการเงิน มุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรมที่จะยกระดับระบบการเงินดิจิทัลของประเทศให้ก้าวไกลและทัดเทียมระดับสากล

โครงการ Hack to the Max : Digital Infrastructure Hack ข้ามขีดจำกัด สู่ระบบการเงินแห่งอนาคต ไม่ได้เป็นเพียงแค่การแข่งขัน แต่เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่าง National ITMX และผู้ที่มีความสามารถ เพื่อร่วมกันสร้างอนาคตของโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินดิจิทัลไทยให้ทันสมัย ปลอดภัย และยั่งยืน ทีมที่ได้รับคัดเลือกจะได้รับโอกาสในการทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจาก National ITMX และพันธมิตรตลอดโครงการ เพื่อพัฒนาแนวคิดของตนให้เป็นจริง ตลอดจนได้รับการสนับสนุนและคำแนะนำต่าง ๆ เพื่อให้ทีมสามารถเติบโตและประสบความสำเร็จในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ

โดยจะเปิดรับสมัครผู้สนใจเข้าร่วมแข่งขันตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคม – 27 กันยายน 2567 โดยมุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายหลักคือ เหล่านักพัฒนา นักสร้างสรรค์ และผู้ที่มีความสนใจในเทคโนโลยีด้านโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินดิจิทัล ไม่จำกัดวุฒิการศึกษา ผู้สมัครต้องมีอายุระหว่าง 18-25 ปี สามารถสมัครได้ทั้งแบบเดี่ยวและแบบทีมไม่เกิน 3 คน โดยจะต้องนำเสนอแนวคิดและนวัตกรรมใหม่ ๆ ตามแนวคิด 3 ด้านหลัก ได้แก่ Innovative Payment Solutions, Sustainable Payment Solution และ Data Solution for Banks

ทีมที่ผ่านการคัดเลือก 15 ทีมสุดท้าย จะได้เข้าร่วมการแข่งขัน Hackathon ในวันที่ 26-27 ตุลาคม 2567 โดยผู้เข้าแข่งขันจะได้รับโอกาสในการพัฒนาแนวคิดของตนให้เป็น Prototype ภายใต้การให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญในวงการ ทีมชนะเลิศจะได้รับรางวัลพิเศษคือโอกาสในการเข้าร่วมงาน Singapore Fintech Festival ที่ประเทศสิงคโปร์ในวันที่ 6-8 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งเป็นเวทีระดับโลกที่รวบรวมผู้เชี่ยวชาญและนักลงทุนจากวงการ Fintech ทั่วโลก โดย NITMX จะเป็นผู้สนับสนุนตั๋วเครื่องบินไปกลับ ที่พัก รวมถึงค่าอาหาร นอกจากนี้ ยังมีรางวัล The Best of Track สำหรับผู้ชนะในแต่ละด้านอีกด้านละ 10,000 บาท

ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมและสมัครเข้าร่วมโครงการของ NITMX Hackathon 2024 “Hack to the Max: Digital Infrastructure” Hack ข้ามขีดจำกัด สู่ระบบการเงินแห่งอนาคต ที่ https://bit.ly/nitmx-hackathon-2024 ตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป อย่าพลาดโอกาสในการเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินดิจิทัลของประเทศไทยและสร้างอนาคตที่สดใสไปพร้อมกับ NITMX

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %

By admin

Average Rating

5 Star
0%
4 Star
0%
3 Star
0%
2 Star
0%
1 Star
0%

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

You missed

“กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค หรือ KJL” ลุยเปิดศักราชใหม่ด้วยไลน์ผลิตภัณฑ์ระบบไฟฟ้ารุ่นล่าสุด “Pull Box ชุบกัลวาไนซ์” ทั้งแบบเหล็กหนา 1.6 และ 1.2 มม. รับมือทุกหน้างานจากอาคารพาณิชย์ถึงโรงงานใหญ่ พร้อมตอบโจทย์ช่างมืออาชีพในยุคที่คุณภาพต้องมาก่อน รองรับตลาดระบบไฟฟ้าเติบโตต่อเนื่อง ตั้งเป้าเจาะกลุ่มลูกค้าโครงการอาคารพาณิชย์ โรงงานอุตสาหกรรม และโครงการระดับเมกะโปรเจกต์ทั่วประเทศ นายเกษมสันต์ สุจิวโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค จำกัด (มหาชน) หรือ KJL ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยว่า ในช่วงไรมาสแรก ปี 2568 บริษัทฯ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ “Pull Box ชุบกัลวาไนซ์” 2 รุ่นใหม่ล่าสุด ประกอบด้วย Pull Box ชุบกัลวาไนซ์ – เหล็กหนา 1.6 มม. เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแข็งแรง ทนทานเป็นพิเศษ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม หรือพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมรุนแรง กล่องผลิตจากเหล็กคุณภาพสูง เคลือบกันสนิมแบบกัลป์วาไนซ์ทั้งภายในและภายนอก Pull Box ชุบกัลวาไนซ์ – เหล็กหนา 1.2 มม. รุ่นมาตรฐานที่เน้นความคล่องตัว ติดตั้งง่าย น้ำหนักเบากว่า แต่ยังคงความแข็งแรง เหมาะสำหรับงานติดตั้งทั่วไปในโครงการ อาคารพาณิชย์ และระบบภายในอาคารทั้ง 2 รุ่นผ่านการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอน เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้า KJL ทุกชิ้นสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างแท้จริง “ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้เป็นอีกก้าวสำคัญของ KJL ในการสร้างทางเลือกให้แก่ผู้ใช้งานระบบไฟฟ้าในทุกระดับ เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนา Pull Box ให้มีความแข็งแรง ปลอดภัย กันสนิม และติดตั้งง่าย เพื่อตอบรับความต้องการของโครงการที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ทั้งในด้านคุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ทั้งสองรุ่นดังกล่าวได้ผ่านการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และกระบวนการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้า KJL ทุกชิ้นสามารถรองรับการใช้งานจริงในทุกสภาพแวดล้อม และพร้อมวางจำหน่ายวันนี้ทั่วประเทศ” นายเกษมสันต์ กล่าว