0 0
Read Time:4 Minute, 46 Second

กกท. จัดการแข่งขันกรีฑาระดับโลก Golden Fly Series Qualifier Chiang Mai 2024 presented by SAT” ณ ประตูท่าแพ จังหวัดเชียงใหม่ หวังสร้างแรงบันดาลใจ พร้อมกระตุ้นท่องเที่ยวและเศรษฐกิจท้องถิ่น

การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จัดการแข่งขันกรีฑาระดับโลกรายการ Golden Fly Series Qualifier Chiang Mai 2024 presented by SAT” ณ ประตูท่าแพ จังหวัดเชียงใหม่ โดยเป็นการจัดการแข่งขันครั้งที่ 3 ในประเทศไทย ซึ่งการแข่งขันประกอบด้วยกระโดดไกลและกระโดดค้ำ ชาย-หญิง ใช้อุปกรณ์พิเศษ “The FlySwat” สนามกรีฑาเคลื่อนที่ใหญ่ที่สุดที่ได้รับการรับรองจาก สหพันธ์กีฬากรีฑาโลก WA ซึ่งการแข่งขันจะได้รับการรับรองสถิติระดับ ผู้ชนะในการแข่งขันจะได้รับสิทธิเข้าร่วมในการแข่งขัน Golden Fly Seriese 2025 พร้อมมุ่งสร้างแรงบันดาลใจด้านกีฬา กระตุ้นการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจท้องถิ่น

นายปรีชา ลาลุน รองผู้ว่าการ ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย  กล่าวว่า “การแข่งขัน Golden Fly Series Qualifier Chiang Mai 2024 ณ ประตูท่าแพ จังหวัดเชียงใหม่ ถือเป็นการตอกย้ำความสำเร็จของประเทศไทยในการจัดการแข่งขันกรีฑาระดับโลกเป็นครั้งที่ 3 ซึ่งสะท้อนถึงความพร้อมของประเทศในทุกด้าน ทั้งในเรื่องของการจัดการ การสนับสนุนเทคโนโลยี และการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการกีฬา ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมสนามเคลื่อนที่ ‘The FlySwat’ หรือการใช้เทคโนโลยีเลเซอร์ PrimeLine ที่ทำให้การแข่งขันมีความแม่นยำและน่าตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น ผมเชื่อว่าการแข่งขันครั้งนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักกีฬารุ่นใหม่และเยาวชนทั่วประเทศ รวมถึงช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬาอย่างยั่งยืน ทั้งในเชียงใหม่และทั่วประเทศ โดยการแข่งขันครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ชมในประเทศ แต่ยังส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการกีฬาและนวัตกรรมระดับโลก”

นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เผยว่า “การที่จังหวัดเชียงใหม่ได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพในการแข่งขัน Golden Fly Series Qualifier Chiang Mai 2024 นับเป็นโอกาสสำคัญที่ทำให้เชียงใหม่ได้รับการยอมรับในเวทีระดับนานาชาติ เราได้เตรียมความพร้อมในทุกด้านเพื่อให้การแข่งขันนี้เกิดขึ้นอย่างราบรื่นและน่าประทับใจ การแข่งขันนี้ไม่เพียงแต่จะดึงดูดนักกีฬาระดับโลกและนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกมาสู่เชียงใหม่ แต่ยังช่วยสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวท้องถิ่น โดยเฉพาะในแง่ของการประชาสัมพันธ์เชียงใหม่ให้เป็นที่รู้จักในฐานะจุดหมายปลายทางที่ไม่เพียงแต่มีวัฒนธรรมที่งดงาม แต่ยังเป็นศูนย์กลางด้านการกีฬาระดับโลก ผมมั่นใจว่าในการแข่งขันครั้งนี้จะสร้างความประทับใจและความทรงจำที่ดีแก่ทุกคน พร้อมทั้งส่งเสริมให้เชียงใหม่เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าจดจำในสายตาของคนทั่วโลก”

การแข่งขัน Golden Fly Series ครั้งนี้จะเป็นรายการคัดเลือกนักกีฬาเพื่อเข้าร่วมการแข่งขัน Golden Fly Series 25 ปีที่ โดยผู้ชนะการแข่งขันจะได้รับสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันในปีหน้าโดยอัตโนมัติ ซึ่งการแข่งขันประกอบด้วย 2 ประเภทกีฬา ได้แก่ กระโดดไกลชาย-หญิง และกระโดดค้ำชาย-หญิง บนลู่ “The FlySwat” ซึ่งเป็นสนามกรีฑาเคลื่อนที่ที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ได้รับการรับรองจาก World Athletics มีความยาวสูงสุดถึง 83.30 เมตร และน้ำหนักรวมทรายกว่า 25 ตัน เทียบเท่ารถบัสสองชั้นสองคัน

ไฮไลต์ของการแข่งขันคือการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการวัดผลและแสดงผลการแข่งขัน เช่น เลเซอร์ “PrimeLine” ที่ใช้แสดงระยะกระโดดในการแข่งขันกระโดดไกล ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นโดยทีมงาน Golden Fly Series ร่วมกับบริษัท MediaLas จากเยอรมนี

นอกจากนี้ ผู้ชมจะได้เห็นความเร็วและความแข็งแรงของนักกีฬาระดับโลกอย่างใกล้ชิด โดยในการกระโดดไกล นักกีฬาชายจะวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดถึง 41 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และใช้แรงกดบนเท้าขณะกระโดดสูงถึง 1 ตัน ในเวลาเพียง 1/10 วินาที ส่วนการกระโดดค้ำ นักกีฬาจะใช้ไม้ค้ำยาวถึง 5.2 เมตร และต้องใช้แรงดึงสูงถึง 700 กิโลกรัมในการดัดไม้ค้ำให้โค้งงอ

สำหรับผลการแข่งขันของแต่ละประเภทมีรายละเอียด ดังนี้

  1. การแข่งกระโดดค้ำประเภทชาย

รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ โมกูโตฟิติ แซนดู จากฝรั่งเศส 7.74

รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ จันนี อูบัส จากฟิลิปปินส์ 7.64

รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ งาย ฮิม ลอว์ จากฮ่องกง 7.56

  1. การแข่งกระโดดค้ำประเภทหญิง

รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ คัทเทอรีนา เชอนอสกา จากสาธารณรัฐเช็ก 6.02

รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ แดเนลา โวนา จากสาธารณรัฐเช็ก 6.02

รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ สุภวัทน์ ชูทอง จากประเทศไทย 5.98

  1. กระโดดไกลประเภทชาย

รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ชาร์ลี ไมเยอส์ จากสหราชอาณาจักร 5.21

รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ อเล็กซานเดอร์ อาบัธน็อต จากออสเตรเลีย 5.01

  1. กระโดดไกลประเภทหญิง

รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ นิกิ จวนนิดู จากสาธารณรัฐเช็ก 4.10

รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ ชญาณิศา ชมชื่นดี จากประเทศไทย 3.90

ทั้งนี้การแข่งขัน Golden Fly Series มีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก โดยมียอดผู้ชมเฉลี่ยกว่า 150 ล้านคนต่อการแข่งขันแต่ละรายการ และมีเวลาออกอากาศเฉลี่ย 800 ชั่วโมงต่อรายการ ผ่านช่องโทรทัศน์กว่า 80 ช่องทั่วโลก ซึ่งนอกจากจะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ด้านการกีฬาของประเทศไทยแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวเชิงกีฬาและเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่อีกด้วย พร้อมยังมุ่งหวังให้เป็นแรงบันดาลใจให้เยาวชนและประชาชนทั่วไปหันมาสนใจกีฬากรีฑามากขึ้น โดยผู้ชมจะได้สัมผัสกับความตื่นเต้นของกีฬากรีฑาในระยะประชิด และเห็นศักยภาพของนักกีฬาระดับโลกอย่างใกล้ชิด

สามารถดูภาพบรรยากาศการแข่งขันกีฬา Golden Fly Series Qualifier Chiang Mai 2024         ณ ประตูท่าแพ จังหวัดเชียงใหม่ หรือติดตามรายละเอียดอื่น ๆ ได้ที่ Facebook : GoldenflyseriesThailand

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %

By admin

Average Rating

5 Star
0%
4 Star
0%
3 Star
0%
2 Star
0%
1 Star
0%

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

You missed

“กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค หรือ KJL” ลุยเปิดศักราชใหม่ด้วยไลน์ผลิตภัณฑ์ระบบไฟฟ้ารุ่นล่าสุด “Pull Box ชุบกัลวาไนซ์” ทั้งแบบเหล็กหนา 1.6 และ 1.2 มม. รับมือทุกหน้างานจากอาคารพาณิชย์ถึงโรงงานใหญ่ พร้อมตอบโจทย์ช่างมืออาชีพในยุคที่คุณภาพต้องมาก่อน รองรับตลาดระบบไฟฟ้าเติบโตต่อเนื่อง ตั้งเป้าเจาะกลุ่มลูกค้าโครงการอาคารพาณิชย์ โรงงานอุตสาหกรรม และโครงการระดับเมกะโปรเจกต์ทั่วประเทศ นายเกษมสันต์ สุจิวโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค จำกัด (มหาชน) หรือ KJL ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยว่า ในช่วงไรมาสแรก ปี 2568 บริษัทฯ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ “Pull Box ชุบกัลวาไนซ์” 2 รุ่นใหม่ล่าสุด ประกอบด้วย Pull Box ชุบกัลวาไนซ์ – เหล็กหนา 1.6 มม. เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแข็งแรง ทนทานเป็นพิเศษ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม หรือพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมรุนแรง กล่องผลิตจากเหล็กคุณภาพสูง เคลือบกันสนิมแบบกัลป์วาไนซ์ทั้งภายในและภายนอก Pull Box ชุบกัลวาไนซ์ – เหล็กหนา 1.2 มม. รุ่นมาตรฐานที่เน้นความคล่องตัว ติดตั้งง่าย น้ำหนักเบากว่า แต่ยังคงความแข็งแรง เหมาะสำหรับงานติดตั้งทั่วไปในโครงการ อาคารพาณิชย์ และระบบภายในอาคารทั้ง 2 รุ่นผ่านการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอน เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้า KJL ทุกชิ้นสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างแท้จริง “ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้เป็นอีกก้าวสำคัญของ KJL ในการสร้างทางเลือกให้แก่ผู้ใช้งานระบบไฟฟ้าในทุกระดับ เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนา Pull Box ให้มีความแข็งแรง ปลอดภัย กันสนิม และติดตั้งง่าย เพื่อตอบรับความต้องการของโครงการที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ทั้งในด้านคุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ทั้งสองรุ่นดังกล่าวได้ผ่านการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และกระบวนการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้า KJL ทุกชิ้นสามารถรองรับการใช้งานจริงในทุกสภาพแวดล้อม และพร้อมวางจำหน่ายวันนี้ทั่วประเทศ” นายเกษมสันต์ กล่าว