0 0
Read Time:3 Minute, 39 Second

6 โบรกฯ ส่อง SNPS ให้เป้า 5.60 – 6.60 บาท
มองพื้นฐานแกร่ง รับอานิสงค์เทรนด์รักสุขภาพดันอุตสาหกรรมขาขึ้น

นักวิเคราะห์ชั้นนำ เคาะราคาหุ้น “สเปเชี่ยลตี้ เนเชอรัล โปรดักส์” (SNPS) ให้เป้า
5.60 – 6.60 บาท เล็งแนวโน้มกำไรสุทธิปี 2567 โตโดดเด่น รับผลบวกอุตสาหกรรมสดใส เกาะกระแสเทรนด์รักสุขภาพ หนุนลูกค้าใหม่เพียบ
นักวิเคราะห์ชั้นนำได้มีการวิเคราะห์หุ้น บริษัท สเปเชี่ยลตี้ เนเชอรัล โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SNPS ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรมานานกว่า 25 ปี ทำให้มีฐานข้อมูลสารสกัดสมุนไพรมาตรฐานจำนวนมากและสามารถนำเอาองค์ความรู้ที่มี รวมถึงการใช้เทคโนโลยี และนวัตกรรมต่างๆ มาต่อยอดเพื่อพัฒนาทั้งสารสกัดสมุนไพรมาตรฐานและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ความงาม และสุขอนามัย ที่มีความเป็นเอกลักษณ์และแตกต่าง สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ และตอบโจทย์ตามการเปลี่ยนแปลงของตลาดและกระแสความนิยมของผู้บริโภค พร้อมกันนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญด้านคุณภาพและมาตรฐานของกระบวนการผลิต โดยได้รับการรับรองมาตรฐานคุณภาพระดับสากลมากมาย เช่น ISO22716:2007, FSSC22000, GMP, HACCP, GHPs, GMP PIC/S เป็นต้น

โดยนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จํากัด เปิดเผยว่า กำหนดราคาเป้าหมาย 6.60 บาท และคาดว่ากำไรสุทธิในปี 2567 จะอยู่ที่ 71 ล้านบาท เนื่องจากธุรกิจผลิตและจำหน่ายสารสกัดสมุนไพรมาตรฐานที่คาดว่าจะเติบโตจากรายได้ของลูกค้ารายใหม่ และการออกสารสกัดชนิดใหม่มากขึ้น อาทิ สารสกัดกระชายดำบริสุทธิ์ B-Gold และโปรตีนจากพืช รวมถึงการจำหน่ายสารสกัดให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยา เครื่องดื่ม อาหารสัตว์ และการขยายไปตลาดต่างประเทศ และธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพความงาม และสุขอนามัยที่เติบโต 33.8% จากปีก่อน จากกลูกค้าเดิมที่มีการสั่งซื้อสินค้ามากขึ้น
อีกทั้งนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุว่า กำหนดราคาเป้าหมาย 6.30 บาท และประเมินกำไรสุทธิปี 2567 อยู่ที่ 71 ล้านบาท เติบโต 93% จากปีก่อน เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่ดูแลสุขภาพมากขึ้นโดยเฉพาะด้วยวิถีธรรมชาติ ประกอบกับการออกสินค้าใหม่ รวมถึงขยายฐานลูกค้าและช่องทางการตลาดไปอุตสาหกรรมใหม่ และการขยายตลาดไปต่างประเทศมากขึ้น

ทำให้ประเมินผลการดำเนินงานในอนาคตโดยคาดว่าจะมีกำไรสุทธิปี 2568 อยู่ที่ 111 ล้านบาท เติบโต 56% จากปีก่อน และในปี 2569 จะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 131 ล้านบาท เติบโต 19% จากปีก่อน
ทั้งนี้นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด เปิดเผยว่า กำหนดราคาเป้าหมายอยู่ที่ 6.08 บาท จากกำไรสุทธิที่จะขยายตัวในอัตราเฉลี่ย 47.8% ต่อปีระหว่างปี 2566-2569 จากการเติบโตของรายได้ ทั้งจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ด้วยจุดเด่นในการวิจัยและพัฒนาที่หลากหลาย การขยายตลาดให้กว้างขึ้นทั้งในอุตสาหกรรมเดิม และอุตสาหกรรมใหม่ รวมถึงโอกาสในการขยายตลาดใปต่างประเทศ และประโยชน์จากขนาดการผลิตที่ใหญ่ขึ้น
ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ระบุว่า กำหนดราคาเป้าหมายอยู่ที่ 6 บาท และได้ประเมินรายได้ในปี 2567 อยู่ที่ 467 ล้านบาท ขณะที่ปี 2568 มีรายได้อยู่ที่ 591 ล้านบาท และปี 2569 มีรายได้อยู่ที่ 699 ล้านบาท พร้อมทั้งประมาณการกำไรสุทธิตั้งแต่ปี 2567-2569 ที่ 77- 131 ล้านบาท ตามการเติบโตของธุรกิจหลัก และผลิตภัณฑ์ใหม่ (New Products) รวมถึงการขยายธุรกิจสารสกัดไปยังตลาดที่มีช่องว่างในการเติบโต
ส่วนนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด (มหาชน) ระบุว่ากำหนดราคาเป้าหมายอยู่ที่ 5.80 บาท โดยมีมุมมองที่เป็นบวกต่อผลการดำเนินงานในอนาคตของ SNSP จากความยืดหยุ่นในการดำเนินงาน และการเติบโตของรายได้ในช่วงถัดไปที่มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นตามอุตสาหกรรม และประเมินกำไรสุทธิปี 2566-2569 มีอัตราการเติบโตต่อปี (CAGR) ประมาณ 44% จากการเติบโตของรายได้ที่มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นตามอุตสาหกรรม
ขณะที่นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จํากัด (มหาชน) ระบุว่า กำหนดราคาเป้าหมายอยู่ที่ 5.60 บาท โดยมองธุรกิจ SNPS มีรายได้ที่ผันผวนตามเศรษฐกิจในแต่ละปี และความสำเร็จของรายได้ขึ้นอยู่กับการมีความสัมพันธ์ที่ดี รวมถึงการเติบโตของลูกค้า และกระแสการ
รักสุขภาพของผู้บริโภค โดยทิศทางกำไรปรับเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2567 ทำให้ประเมินกำไรสุทธิในปี 2567- 2569 จะเติบโตได้ในระดับ 34% เนื่องจากการได้ลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นตามการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ ประกอบกับมีคำสั่งซื้อในผลิตภัณฑ์เดิมที่มากขึ้น

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %

By admin

Average Rating

5 Star
0%
4 Star
0%
3 Star
0%
2 Star
0%
1 Star
0%

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

You missed

“กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค หรือ KJL” ลุยเปิดศักราชใหม่ด้วยไลน์ผลิตภัณฑ์ระบบไฟฟ้ารุ่นล่าสุด “Pull Box ชุบกัลวาไนซ์” ทั้งแบบเหล็กหนา 1.6 และ 1.2 มม. รับมือทุกหน้างานจากอาคารพาณิชย์ถึงโรงงานใหญ่ พร้อมตอบโจทย์ช่างมืออาชีพในยุคที่คุณภาพต้องมาก่อน รองรับตลาดระบบไฟฟ้าเติบโตต่อเนื่อง ตั้งเป้าเจาะกลุ่มลูกค้าโครงการอาคารพาณิชย์ โรงงานอุตสาหกรรม และโครงการระดับเมกะโปรเจกต์ทั่วประเทศ นายเกษมสันต์ สุจิวโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค จำกัด (มหาชน) หรือ KJL ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยว่า ในช่วงไรมาสแรก ปี 2568 บริษัทฯ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ “Pull Box ชุบกัลวาไนซ์” 2 รุ่นใหม่ล่าสุด ประกอบด้วย Pull Box ชุบกัลวาไนซ์ – เหล็กหนา 1.6 มม. เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแข็งแรง ทนทานเป็นพิเศษ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม หรือพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมรุนแรง กล่องผลิตจากเหล็กคุณภาพสูง เคลือบกันสนิมแบบกัลป์วาไนซ์ทั้งภายในและภายนอก Pull Box ชุบกัลวาไนซ์ – เหล็กหนา 1.2 มม. รุ่นมาตรฐานที่เน้นความคล่องตัว ติดตั้งง่าย น้ำหนักเบากว่า แต่ยังคงความแข็งแรง เหมาะสำหรับงานติดตั้งทั่วไปในโครงการ อาคารพาณิชย์ และระบบภายในอาคารทั้ง 2 รุ่นผ่านการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอน เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้า KJL ทุกชิ้นสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างแท้จริง “ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้เป็นอีกก้าวสำคัญของ KJL ในการสร้างทางเลือกให้แก่ผู้ใช้งานระบบไฟฟ้าในทุกระดับ เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนา Pull Box ให้มีความแข็งแรง ปลอดภัย กันสนิม และติดตั้งง่าย เพื่อตอบรับความต้องการของโครงการที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ทั้งในด้านคุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ทั้งสองรุ่นดังกล่าวได้ผ่านการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และกระบวนการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้า KJL ทุกชิ้นสามารถรองรับการใช้งานจริงในทุกสภาพแวดล้อม และพร้อมวางจำหน่ายวันนี้ทั่วประเทศ” นายเกษมสันต์ กล่าว