0 0
Read Time:2 Minute, 0 Second

“แพทย์รังสิตเฮลท์แคร์กรุ๊ป” กวาดกำไร 9 เดือนปี 67 ที่ 193.10 ลบ. เพิ่มขึ้น 22.37% YOY หลังรายได้เพิ่มขึ้นทุกกลุ่มลูกค้า IPD-OPD และอัตราครองเตียงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

นายรณชิต แย้มสอาด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แพทย์รังสิตเฮลท์แคร์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ PHG เปิดเผยว่า ผลประกอบการในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2567 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 625.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57.34 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 10.09% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีรายได้รวม 568.04 ล้านบาท ในขณะที่มีกำไรสุทธิสำหรับไตรมาสที่ 3 ปี 2567 อยู่ที่ 89.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.05 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 9.83% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 81.89 ล้านบาท ในขณะที่ผลประกอบการรวมในช่วง 9 เดือนของปี 2567 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,718.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 177.74 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 11.53% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีรายได้รวม 1,541.03 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิรวมในช่วง 9 เดือนของปี 2567 อยู่ที่ 193.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.30 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 22.37% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 157.80 ล้านบาท

โดยการเพิ่มขึ้นของรายได้ และกำไรสุทธิมีสาเหตุหลักมาจากกการเติบโตของรายได้จากการให้บริการกับกลุ่มลูกค้าปกติ (Normalized revenue) ได้แก่รายได้จากกลุ่มลูกค้าทั่วไป ประกอบด้วย กลุ่มลูกค้าทั่วไป และกลุ่มลูกค้าคู่สัญญา และรายได้จากกลุ่มลูกค้าโครงการสวัสดิการภาครัฐ ประกอบด้วย โครงการประกันสังคม โครงการของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และโครงการสวัสดิการข้าราชการ โดยอัตราการครองเตียงสำหรับช่วง 9 เดือนของปี 2567 อยู่ที่ 87.24% เพิ่มขึ้นจาก 85.62% ของปีก่อน จากการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยในของโรงพยาบาลแพทย์รังสิต 1 และ 2 ในขณะที่อัตราการเข้ารับบริการของผู้ป่วยนอกในช่วง 9 เดือนของปี 2567 อยู่ที่ 67.80% เพิ่มขึ้นจาก 67.32% ของปีก่อน จากการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้เข้ารับบริการของโรงพยาบาลแพทย์รังสิต 2 รวมถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องของกลุ่มลูกค้าเงินสด และความสามารถในการทำกำไรที่เพิ่มขึ้นผ่านการพัฒนากระบวนการทั้งส่วนหน้าบ้านและหลังบ้าน

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %

By admin

Average Rating

5 Star
0%
4 Star
0%
3 Star
0%
2 Star
0%
1 Star
0%

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

You missed

“กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค หรือ KJL” ลุยเปิดศักราชใหม่ด้วยไลน์ผลิตภัณฑ์ระบบไฟฟ้ารุ่นล่าสุด “Pull Box ชุบกัลวาไนซ์” ทั้งแบบเหล็กหนา 1.6 และ 1.2 มม. รับมือทุกหน้างานจากอาคารพาณิชย์ถึงโรงงานใหญ่ พร้อมตอบโจทย์ช่างมืออาชีพในยุคที่คุณภาพต้องมาก่อน รองรับตลาดระบบไฟฟ้าเติบโตต่อเนื่อง ตั้งเป้าเจาะกลุ่มลูกค้าโครงการอาคารพาณิชย์ โรงงานอุตสาหกรรม และโครงการระดับเมกะโปรเจกต์ทั่วประเทศ นายเกษมสันต์ สุจิวโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค จำกัด (มหาชน) หรือ KJL ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยว่า ในช่วงไรมาสแรก ปี 2568 บริษัทฯ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ “Pull Box ชุบกัลวาไนซ์” 2 รุ่นใหม่ล่าสุด ประกอบด้วย Pull Box ชุบกัลวาไนซ์ – เหล็กหนา 1.6 มม. เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแข็งแรง ทนทานเป็นพิเศษ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม หรือพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมรุนแรง กล่องผลิตจากเหล็กคุณภาพสูง เคลือบกันสนิมแบบกัลป์วาไนซ์ทั้งภายในและภายนอก Pull Box ชุบกัลวาไนซ์ – เหล็กหนา 1.2 มม. รุ่นมาตรฐานที่เน้นความคล่องตัว ติดตั้งง่าย น้ำหนักเบากว่า แต่ยังคงความแข็งแรง เหมาะสำหรับงานติดตั้งทั่วไปในโครงการ อาคารพาณิชย์ และระบบภายในอาคารทั้ง 2 รุ่นผ่านการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอน เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้า KJL ทุกชิ้นสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างแท้จริง “ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้เป็นอีกก้าวสำคัญของ KJL ในการสร้างทางเลือกให้แก่ผู้ใช้งานระบบไฟฟ้าในทุกระดับ เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนา Pull Box ให้มีความแข็งแรง ปลอดภัย กันสนิม และติดตั้งง่าย เพื่อตอบรับความต้องการของโครงการที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ทั้งในด้านคุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ทั้งสองรุ่นดังกล่าวได้ผ่านการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และกระบวนการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้า KJL ทุกชิ้นสามารถรองรับการใช้งานจริงในทุกสภาพแวดล้อม และพร้อมวางจำหน่ายวันนี้ทั่วประเทศ” นายเกษมสันต์ กล่าว